ธุรกิจแบงก์บูม เร่หาพันธมิตรหน้าใหม่ หวังเพิ่มรายได้จากการขาย ประกันภัย กรุงศรีฯ หาพันธมิตรขยายตลาด ประกันภัย รับทุนญี่ปุ่น หลังทุนใหม่ไฟเขียวเตรียมป้อนงาน ขณะที่ “เกียรตินาคิน” ปักธงจับมือ 2 พันธมิตรประกันชีวิต เซ็นสัญญาขาย ประกันภัย ระยะยาว ตั้งเป้ารายได้แบงก์แอสชัวร์รันซ์เพิ่มไม่ต่ำกว่า 10%

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจเงินฝาก และการลงทุน และ ประกันภัย ธนพัทธ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2557 ธนาคารกำหนดเป้าหมายเบี้ย ประกันภัย รับรวมที่ 1.45 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท โดยช่องทางนโยบายการดำเนินธุรกิจของธนาคารด้าน ประกันภัย นั้น จะเน้นการขยายตลาดมากขึ้นจากฐานลูกค้า 2 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นลูกค้าฐานเดิมของธนาคาร ซึ่งยังคงทำตลาดร่วมกับพันธมิตร กลุ่มที่ 2 ธุรกิจประกันชีวิต คือ บริษัทไทยประกันชีวิต และบริษัท อลิอันซ์ อยุธยาประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ (AZAY) คิดเป็นสัดส่วน 70% หรือประมาณ 7,700 ล้านบาท และประกันวินาศภัย คือ บริษัท ศรีอยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (บมจ.) สัดส่วน 30% คิดเป็นเบี้ย ประกันภัย รับ 3,300 ล้านบาท โดยในปี 2556 ที่ผ่านมา ผลงานการรับ ประกันภัย อยู่ในสัดส่วนที่เติบโตสูง เห็นได้จากเบี้ย ประกันภัย รับต่อสาขา เฉลี่ยสูงที่สุดของอุตสาหกรรม

"ในส่วนของการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ขณะนี้ธนาคารกำหนดเป้าหมายอัตราการขยายตัว โดยทางผู้ถือหุ้นรายใหม่ คือ ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) จะนำเอาเทคโนโลยีที่จะเสริมให้ธนาคารกรุงศรีสามารถเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ ถามว่าจะเพิ่มฐานลูกค้าได้อย่างไร คงตอบได้ว่าทางกลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นค่อนข้างเป็นกลุ่มอนุรักษนิยม เพราะการเข้ามาลงทุนในประเทศไหนๆ จะเน้นทำ ประกันภัย กับบริษัท ประกันภัย สัญชาติของตน ดังนั้นฐานลูกค้าของตนก็จะมาจากกลุ่มทุนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย"

จุดนี้ทำให้ปี 2557 บริษัทจะหาพันธมิตรที่เป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่มีศักยภาพ พร้อมให้บริการในการรับ ประกันภัย ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะประกันอัคคีภัย ประกันภัย โรงงาน และ ประกันภัย เสี่ยงภัยทรัพย์สิน (Industrial all Risk : IAR) ซึ่งคุณสมบัติของพันธมิตรเพิ่มเติม คือ ต้องมีฐานะทางการเงินมั่นคง มีชื่อเสียง สามารถต่อรองกับลูกค้า และส่งภัยต่อไปยังบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือได้

ด้านประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการขยายฐานลูกค้าด้าน ประกันภัย ว่าอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในธุรกิจประกันชีวิตประมาณ 2 ราย จากปัจจุบันที่มีกว่า 10 ราย ภายใต้ความร่วมมือสัญญาระยะยาว 10-15 ปี จากเดิมที่เป็นการเซ็นสัญญากับบริษัทประกันชีวิตในระยะ 1-2 ปี ทั้งนี้เพื่อเพิ่มสัดส่วนของรายได้ จากปี 2556 ธนาคารมีสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจประกันชีวิตประมาณ 9% จาก 1.53 หมื่นล้านบาท โดยเชื่อว่าสัดส่วนรายได้ปี 2557 จะขยายตัวมากกว่า 10% และคาดว่าภายในเดือนมีนาคม หรือไตรมาสที่ 2-3 จะมีความชัดเจนว่าธนาคารจะทำสัญญา และเริ่มเปิดขาย ประกันภัย ได้ทันที

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ