บริษัทที่ปรึกษาด้านการ ประกันภัยรถยนต์ ทรัพย์สิน อุบัติเหตุ และนายกสมาคมนายหน้าประกันภัย เปิดเผยถึงภาพรวมของธุรกิจโบรกเกอร์ ประกันภัยรถยนต์ ว่า เป็นกลุ่ม ประกันภัย ที่มียอดเติบโตต่อเนื่องทุกปี ทั้งจากยอด รถยนต์ เก่าสะสมและ รถยนต์ ใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมาตลาด รถยนต์ เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากโครงการ รถยนต์ คันแรก ทำให้เบี้ย ประกัยภัย ในปีที่ผ่านมารวมกว่า 70,000-80,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีการเติบโตสูงสุดในอาเซียน โดยกลุ่มธุรกิจ ประกันรถยนต์ นับเป็นสัดส่วนสูงถึง 70-80% จาก ประกันภัย ทุกประเภท

ส่วนในปีนี้ เมื่อยอดขาย รถยนต์ หดตัวลง ก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ประกันภัย โดยเริ่มเห็นผลกระทบตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ลูกค้าที่เคยเลือกทำ ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นประเภทอื่น ๆ ที่ราคาต่ำลง และยังมีสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้การลงทุนจากภาครัฐและเอกชนชะลอตัวลง มีผลต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ส่งผลต่อธุรกิจ ประกันภัยรถยนต์ ที่จะแข่งขันรุนแรงขึ้น

โดยเฉพาะด้านผลิตภัณฑ์และราคา โดยทิศทางของธุรกิจดังกล่าวในอนาคตนั้น จะยิ่งมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเมื่อไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2558 นั้น จะเอื้อประโยชน์ให้บริษัทต่างชาติสามารถเคลื่อนย้ายเข้ามาทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยบริษัท ประกันภัย ในสิงคโปร์และมาเลเซียที่มีความแข็งแกร่งหลายราย ต่างก็สนใจเข้ามาขยายธุรกิจและหาลูกค้าในไทย ซึ่งเป็นประเทศที่ตลาด รถยนต์ ขยายตัวต่อเนื่อง และเป็นฮับด้านโลจิสติกส์ของอาเซียนด้วย ทำให้อาจจะมีบริษัทโบรกเกอร์ในไทยบางแห่งที่ไม่สามารถปรับตัวตั้งรับได้ อาจจะถูกต่างชาติซื้อกิจการ หรือควบรวมกิจการไป ผู้ที่อยู่ในธุรกิจ ประกันภัย ในประเทศจะต้องมีการปรับตัวในด้านการดำเนินงานที่เป็นมืออาชีพ และรักษาฐานลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ