นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยเปิดเผยว่า หลังจากสมาคมฯ ได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทซีซีอาร์ ผู้รับ ประกันภัย ต่อของฝรั่งเศส เพื่อหาข้อยุติการจ่ายสินไหมทดแทนเหตุการณ์น้ำท่วมไทยเมื่อปี 2554 ส่วนที่ซีซีอาร์จะขอจ่ายไม่เต็มจำนวนว่า มีความคืบหน้าไปมาก โดยซีซีอาร์เริ่มนัดบริษัท ประกันภัย มาหารือ โดยดูจากเคลมลูกค้าที่มีปัญหาที่ประมาณ 200 เคลม แต่ละเคลมเกี่ยวข้องกับบริษัท ประกันภัย ใดบ้าง ทั้งบริษัทที่รับตรง ร่วมกันรับ (coinsurance) หรือรับ ประกันภัย ต่อระหว่าง กัน ให้มาพร้อมกันทีเดียว เพื่อประหยัดเวลา โดยใช้ที่ทำการของสมาคมฯ เป็นสถานที่ทำงานชั่วคราว

"เขาเริ่มคุยกันมาเกือบเดือนแล้ว เราก็ยึดกรอบที่เคยคุยกับเขา ให้เวลาเคลียร์เคลมที่เหลือทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน นับจากวันที่ 12 พฤศจิกายน เขาก็รับปากจะทำตามข้อเสนอของเรา ที่ว่าเคลมไหนมีหลักฐานครบเขาจะจ่ายสินไหมเพิ่มให้ จากเดิมที่บอกจะจ่าย 70-90% บางรายจะจ่ายเต็ม หรือจ่ายตามยอดที่บริษัท ประกันภัย เรียกเก็บไป โดยเขามีข้อความแจ้งมาเป็นลายลักษณ์อักษรที่สมาคมฯ ส่วนรายที่มีปัญหาเขาขอตรวจสอบก่อน"

ส่วนกรณีบรรษัท ประกันภัย ต่อแห่งเอเชีย หรือเอเชียนรี ขณะนี้มีรัฐบาลหลายประเทศทยอยเพิ่มเงินเข้ามาให้แล้ว อาทิ รัฐบาลไทยที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพิ่มเติมอีกจำนวน 6,822 หุ้น วงเงิน 6.822 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 219 ล้านบาท ทำให้สถานการณ์ทางการเงินของบริษัทดีขึ้น การจ่ายสินไหมทดแทนหลังจากนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเหมือนก่อนหน้านี้ที่สะดุดไป เพราะระดมเงินจากรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่เป็นผู้ถือหุ้นไม่ได้ โดยเอเชียนรีจ่ายสินไหมน้ำท่วมเกิน 60-70% แล้ว

สำหรับบริษัทเบสท์รีที่ขอจ่ายสินไหมน้ำท่วมไทยแค่ 50% ของยอดรวมนั้น นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยกล่าวว่า ทางเบสท์รีพยายามจะเข้ามาคุยกับบริษัท ประกันภัย ที่มีการฟ้องร้องกันอยู่ โดยโชว์ข้อมูลฐานะการเงินของเขาที่กำลังมีปัญหา พร้อมเจรจาขอประนอมหนี้ หากเจรจากันไม่ได้เขาจะขอต่อสู้คดี โดยเขายืนยันถ้าเคลียร์หนี้กับบริษัท ประกันภัย ไทยไม่จบ เขาก็ไม่สามารถเปิดดำเนินธุรกิจได้ ไม่มีเบี้ย ประกันภัย ใหม่เข้ามา มีแต่รายจ่ายทางเดียว โดยเบสท์รี ถูกศาลมาเลเซียสั่งให้หยุดดำเนินการ อยู่ในกระบวนการขอล้มละลาย โดยได้ยื่นอุทธรณ์ขอกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจอยู่

"เขาก็มาชี้แจงปัญหาต่างๆ ของเขา เราก็ประสานสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) ช่วยประสานกับทางมาเลเซีย หาข้อมูลฐานะการเงินปัจจุบันของเขาเป็นอย่างไร เพื่อให้สมาชิกใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ซึ่งแต่ละบริษัทจะไปพูดคุยกับเบสท์รีเอง ถ้าดูผู้รับ ประกันภัย ต่อทั้ง 3 บริษัท เอเชียน รี มีสถานการณ์ดีสุด หนักสุดคือ เบสท์รี ซีซีอาร์ ไม่เท่าไหร่"

ความคืบหน้าการขอความช่วยเหลือจากกรมสรรพากร ให้ยินยอมนำสินไหมทดแทนจากน้ำท่วม ส่วนที่ผู้รับ ประกันภัย ต่อไม่จ่าย หรือจ่ายไม่ครบ ที่จะกลายเป็นหนี้สูญมาคำนวณเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อให้บริษัท ประกันภัย นำไปหักภาษีได้นั้น ทางกระทรวงการคลังมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มาดูแลเรื่องนี้ โดยให้ คปภ.ออกประกาศกฎเกณฑ์ประเภทหนี้ที่ถือเป็นหนี้ด้อยค่า หรือตัดเป็นหนี้สูญได้ โดยกรมสรรพากรจะยึดตามเกณฑ์นั้น เหมือนตอนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกให้กับธนาคาร ซึ่งเกณฑ์ที่ คปภ.คุยกับธุรกิจ ประกันภัย แล้ว เช่น หนี้ที่มีการทำสัญญาประนีประนอมแล้ว หรือยื่นตั้งอนุญาโตตุลาการแล้ว หรือฟ้องศาลแล้ว หรือถูกเพิกถอนกิจการแล้ว ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ครบ ก่อนหน้านี้ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โดยหลักการแล้วกรณีนี้น่าจะสามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้

ที่มา : สยามธุรกิจ