เมื่อปลายปีที่แล้ว ยักษ์ ประกันภัย โลกอย่าง "กลุ่มอลิอันซ์" ประกาศตัวอย่างชัดเจนที่จะทุ่มการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะใน 3 ประเทศหลัก ได้แก่ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยในประเทศไทยได้เปิดโครงการ "One Allianz" เพื่อผนึกกำลังบริษัทในเครือ ที่กลุ่มอลิอันซ์ถือหุ้น ร่วมกันหาระบบงานที่สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่กระนั้นในแง่ของการลงทุนที่ชัดเจนอื่นๆ ก็ยังไม่มีให้เห็น แต่ผู้บริหารของบมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต หนึ่งในบริษัทในเครือ ก็ยังยืนยันถึงความพร้อมด้านการลงทุนของบริษัทแม่

"บอร์ดอลิอันซ์" ดอดพบ "คปภ." / ย้ำชัดพร้อมทุ่มทุนหนุน AZAY

"เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน บอร์ดบริหารกลุ่มอลิอันซ์ ได้มาพบปะกับเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) เพื่อยืนยันถึงความพร้อมด้านเม็ดเงินของกลุ่มอลิอันซ์ ในการสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย และมุ่งลงทุนในอลิอันซ์อยุธยาฯ ในระยะยาว"

กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต (AZAY) กล่าว จากที่ก่อนหน้านี้มีการนำผลกำไรที่ได้ พัฒนาช่องทางขายของบริษัท เช่น ในช่องทางตัวแทนที่มีการลงทุนศูนย์ฝึกอบรมตัวแทน และหลักสูตรอบรมไปกว่า 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังได้นำโครงการ My Finance Coach ซึ่งเป็นโครงการเพื่อสังคมของบริษัทแม่กลุ่มอลิอันซ์ที่ริเริ่มขึ้นในเยอรมนี ด้วยการอบรมเด็กอายุ 10-12 ปี ให้รู้จักการวางแผนการเงิน กระจายไปยังบริษัทในกลุ่มอลิอันซ์ทั่วโลก 9 ประเทศ มาเผยแพร่ในไทยด้วย โดยเป็นการนำหลักสูตรมาประยุกต์สอนเยาวชนไทย ให้มีความเข้าใจในเรื่องธุรกิจการเงิน ที่เชื่อมโยงมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ มุ่งให้เด็กไทยมีความรู้ด้านการเงินเพิ่มขึ้น สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และมีวินัยทางการเงินในอนาคต

"เราเริ่มโครงการนี้เมื่อไตรมาสสี่ ปี 2555 ร่วมกับสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร อนุญาตให้พนักงานครูอาสา ที่ได้รับการอบรมการสอนตามหลักสูตรดังกล่าว มาสอนเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 ในสังกัดกรุงเทพมหานคร 10 โรงเรียน และคาดว่าสิ้นปีนี้จะครบ 25 โรงเรียน และนักเรียนเข้าร่วมโครงการถึง 1,500 คน จากปัจจุบันเข้าร่วมแล้วกว่า 1,000คน"

ทุกช่องขายโตตามแผน / มั่นใจสิ้นปีเบี้ย ประกันภัย เข้าเป้า 25,000 ล้าน

สำหรับในช่วงเวลาที่เหลือ บริษัทมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถทำผลงานได้ตามเป้า คือ เบี้ย ประกันภัย รับรวม 25,000 ล้านบาท เติบโต 12% แบ่งเป็นเบี้ย ประกันภัย ปีแรก (FYP) 5,600 ล้านบาท เติบโต 22% โดยที่ทุกช่องทางขายยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้

"สถานการณ์ดอกเบี้ยไม่มีผลต่อการทำตลาดของบริษัท เพราะเน้นขายสินค้าคุ้มครอง (Protection) มากกว่าสะสมทรัพย์ (Saving) ซึ่งสัดส่วนเบี้ย ประกันภัย คุ้มครองในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นมาเป็น 44% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกปีที่แล้วอยู่ที่ 34%"

อย่างไรก็ดีช่องทางหลักยังมาจากช่องทางตัวแทน ซึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ เพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงเทศกาลลดหย่อนภาษี จึงได้ออกแบบ ประกันภัย มาย เซฟวิ่งส์ 10/6 (มีเงินปันผล) ชำระเบี้ย ประกันภัย 6 ปี คุ้มครอง 10 ปี โดยมีจุดเด่นเงินคืนทุกปี ปีละ 6% ของทุน ประกันภัย มาช่วยเสริมการทำตลาดให้กับช่องทางตัวแทน

นอกจากนี้ ในช่องทางขายตรง หรือไดเรกต์ ยอดขายก็เป็นที่น่าพอใจ ทั้งการขายผ่านโทรศัพท์ หรือเทเลมาร์เก็ตติ้ง และการขายผ่านทีวี หรือดีอาร์ทีวี (Direct Response TV) เติบโตได้ดี โดยเฉพาะดีอาร์ทีวี มีส่วนอย่างมากในการผลักดันให้เทเลฯ เติบโต จึงเชื่อว่าถึงสิ้นปี สัดส่วนเบี้ย ประกันภัย จากดีอาร์ทีวี น่าจะพิ่มขึ้นอีก 5-10%

"เราไม่ได้เน้นการทำตลาดพิเศษในช่วงนี้ เพราะในแต่ละช่องทางต่างก็มีแผนงานของตัวเอง และทำได้ตามแผนอยู่แล้ว ซึ่งจากผลงานก็คาดว่าสิ้นปีจะเป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะช่องทางตัวแทนที่อาจมีเซอร์ไพรส์ ผลงานเกินคาด"

ทั้งนี้ หลายปีที่ผ่านมา อลิอันซ์ อยุธยาฯ ไม่สามารถที่จะพิชิตเป้าหมายได้ตามแผน แม้ว่าการเติบโตจะเป็นบวกก็ตาม แต่ปีนี้หากพิจารณาข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทย พบว่าผลประกอบการของอลิอันซ์อยุธยาฯ ในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-ตุลาคม 2556) มีเบี้ย ประกันภัย รับรวม 19,891.7 ล้านบาท เติบโต 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ก็พอจะมองเห็นภาพการพิชิตเป้าหมายในปีนี้ได้ไม่ยาก โดยทำเบี้ย ประกันภัย ปีแรก (FYP) ได้ 4,356.1 ล้านบาท เติบโต 13% เบี้ย ประกันภัย ปีต่อไป 15,162.1 ล้านบาท เติบโต 9% และเป็นเบี้ย ประกันภัย ชำระครั้งเดียว หรือซิงเกิล พรีเมี่ยม (Single Premium) 373.5 ล้านบาท เติบโต 27%

ที่มา : สยามธุรกิจ