14
จับตาผลกระทบของการระบาด”โควิด-19” โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” ที่กำลังระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบธุรกิจประกันภัยอย่างไร จากค่าสินไหมแบบ “เจอ จ่าย จบ” ประกันภัยต้องปรับตัวทั้งการ หยุดขาย และ ไม่ต่ออายุกรมธรรม์ รวมไปถึงสถานการณ์ กองทุนประกันวินาศภัย “ติดลบ”
อีกหนึ่งความกังวลของ บริษัทประกันภัย สำหรับการระบาดของ “โอมิครอน” ถ้าระบาดหนัก จะส่งผลต่อกรมธรรม์ “เจอ จ่าย จบ” อีกกว่า 7 ล้านฉบับที่จะหมดอายุภายในเดือนมิถุนายน อาจทำให้ยอดสินไหมพุ่งเกินเกินแสนล้าน เพราะเคลมใหม่ยังไหลเข้ามาทุกวัน
“คาดว่า บริษัทประกันวินาศภัย จะไม่ต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยแบบ “เจอ จ่าย จบ” รวมถึงประกันภัยค่ารักษาพยาบาลเกี่ยวกับ โควิด-19 คงเหลือแต่ ประกันภัย โควิด-19 แบบคุ้มครองโคม่า”
ผลกระทบต่อ บริษัทประกันวินาศภัย จากพิษ “เจอ จ่าย จบ” ก่อนการระบาด “โอนิครอน” บริษัทประกันวินาศภัย ถูกสั่งปิดไปแล้ว 2 บริษัท และปัญหาที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบไปยังอีกหลายบริษัท บางบริษัทติดลบ บางบริษัทไม่ติดลบ แต่ได้รับความเสียหายมากพอสมควร เนื่องจากต้องปฎิบัติตามคำสั่ง คปภ. และเรื่องความรู้สึกของประชาชน บริษัทประกันวินาศภัย ก็ต้องดูแลให้ดีที่สุด
สำหรับการสั่งปิด บริษัทประกันวินาศภัย จะส่งผลกระทบไปยังธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทุก ๆ ผลกระทบจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องอีกจำนวนหนึ่ง เช่น กลุ่มอู่ซ่อมรถ ทั้งค่าแรง ค่าสี ค่าอะไหล่ ซัพพลายเออร์ ในส่วนโรงพยาบาลหลายแห่ง ก็ได้รับผลกระทบเยอะ ทำให้โรงพยาบาลย้อนกลับมาเข้มงวดกับการให้เครดิตกับ บริษัทประกันวินาศภัย
“ธุรกิจต่าง ๆ เขาไม่ได้เงิน ไม่รู้จะไปเอาเงินจากไหน เพราะไม่สามารถเคลมเงินจากกองทุนประกันวินาศภัยได้ทันที ต้องรอ กองทุนประกันวินาศภัย ชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร”
คำสั่งปิด 2 บริษัทประกันวินาศภัย ส่งผลกระทบต่อกองทุนประกันวินาศภัย เนื่องจากต้องมีภาระจ่ายหนี้ค่าสินไหมทดแทนจำนวนมากเกินกว่าหน้าตักที่มีอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นในปี 2565 มีความเป็นไปได้ที่ กองทุนประกันวินาศภัย อาจปรับเพิ่มเงินสมทบที่ บริษัทประกันวินาศภัย ต้องนำส่งตามกฎหมาย เพื่อเสริมสภาพคล่องในการชดเชยผู้เอาประกันภัย
เครดิต: สยามอินชัวร์ นิวส์
ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์