28
“วินาศภัยไซส์เล็ก” ดิ้นหาทางรอด เลขาฯ คปภ. ยอมรับหลายค่ายได้ทุนใหม่ เพิ่มทุนยันควบรวม ย้ำไทยเนื้อหอมเป็นโอกาสทองในอาเซียน ทั้งเบี้ยต่อจีดีพี่ต่ำ “ฮับ CLMV” ดูดทุนต่างชาติเก่า-ใหม่รุมจีบหัวกระไดไม่แห้ง
แหล่งข่าวจากวงการประกันภัยรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้มีบริษัทประกันวินาศภัยขนาดเล็ก อย่างน้อย 2 แห่ง มีทางผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ขายหุ้นให้กับบริษัทต่างชาติ รายแรก คือ บริษัท สหมงคลประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ได้ผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่เข้ามา เป็นกลุ่มทุนจากประเทศจีนที่เพิ่งเข้าตลาด ประกันภัย ไทยเป็นครั้งแรก อีกบริษัทคือ บริษัท สยามซิตี้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยกลุ่มเอฟดับบลิวดี (FWD Group Financial Service Pte.Ltd.) จากฮ่องกง ได้เข้าซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งการเข้าลงทุนในสยามซิตี้ประกันภัย เพราะต้องการประกอบธุรกิจประกันภัยในประเทศไทยครบวงจร ทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย จากเดิมที่มีเพียงธุรกิจประกันชีวิต
อย่างไรก็ดี เลขาธิการ คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจ ประกันภัย กล่าวว่า หลายบริษัทมีทิศทางในทางที่ดีขึ้น เท่าที่ติดตามสถานการณ์ในบริษัทต่างๆ พบว่า บางบริษัทมีผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามา บางบริษัทมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร มีการเพิ่มเงินทุนเข้ามา หรือมีการควบรวมบริษัท ซึ่งก็เป็นทิศทางที่ดีขึ้น โดยบริษัทที่ไปควบรวมด้วยจะมีทั้งบริษัทต่างประเทศที่มีทุนทรัพย์ มีอำนาจ โนว์ฮาว และความพร้อม
ดร.สุทธิพล กล่าวว่า ธุรกิจ ประกันภัย ของประเทศไทย ทั้ง ประกันชีวิต และ ประกันวินาศภัย ยังมีความน่าสนใจสำหรับต่างชาติอยู่ เพราะหากเทียบกับตลาดในภูมิภาคอาเซียนแล้ว บางประเทศสภาพตลาดอิ่มตัว พื้นที่จำกัด ซึ่งสาเหตุที่ประเทศไทยเป็นโอกาสทอง เพราะ 1.เบี้ยประกันภัยต่อจีดีพียังน้อยอยู่ ยังเติบโตได้อีก และ 2.ตลาดไทยใหญ่และมีที่ตั้งเป็นศูนย์กลางสามารถขยายไปใน CLMV และอาเซียนได้ ดังนั้นเมื่อเทียบในอาเซียนแล้ว ไทยเนื้อหอมพอสมควร
สำหรับ กลุ่มเอฟดับบลิวดี เพิ่งเข้าซื้อหุ้น บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ถืออยู่ทั้งหมดพร้อมสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ประกันชีวิต ผ่านธนาคารเป็นระยะเวลา 15 ปี จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 9.27 หมื่นล้านบาท ซึ่งในอนาคตมีความเป็นไปได้สูงมาก ที่จะนำเข้าควบรวมกับ บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต โดยการเข้าซื้อหุ้นใหญ่ บริษัท สยาม ซิตี้ประกันภัย จะทำให้กลุ่มเอฟดับบลิวดี มีธุรกิจ ประกันภัย ในประเทศไทยครบทั้ง 2 ขาทั้ง ประกันชีวิต และ ประกันวินาศภัย
อีกกลุ่มหนึ่งที่มีการเพิ่มเงินทุนเข้ามาในช่วงนี้ โดยประธานกรรมการ บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TSI Insurance เปิดเผยว่า ผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทฯ โดยมีแผนที่จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปใช้ 3 แนวทาง คือ การขยายงาน และเพิ่มสภาพคล่องของบริษัทฯ การใช้เป็นเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามประกาศ และข้อกำหนดของ คปภ.
ด้าน บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 300 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนรวม 1,840 ล้านบาท พร้อมแต่งตั้ง นายอรัญ ศรีว่องไทย ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นมา โดยการเพิ่มทุนจดทะเบียนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมทั้งปรับการบริหารธุรกิจ เน้นการตลาดเชิงรุก สร้างกำไร และบริหารต้นทุนด้านสินไหม เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน
เครดิต: สยามอินชัวร์ นิวส์
ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์