KOENIGSEGG ค่ายรถสัญชาติสวีเดน เปิดตัวรถ “ไฮเปอร์คาร์สุดเหนี่ยว” สำหรับ KOENIGSEGG Jesko สืบทอดสายพันธุ์ต่อมาจากรุ่น Agera RS ที่มาพร้อมความแรงระดับ 278 ไมล์/ชม. หรือ 444 กม./ชม.

ภายนอกด้วยความเป็นรถในสไตล์ ไฮเปอร์คาร์ รูปทรงแบนราบหน้าต่ำ การออกแบบทุกส่วนเน้นหลักอากาศพลศาสตร์เป็นสำคัญ ด้วยความเร็วความแรงของรถ ทุกสัดส่วนของ KOENIGSEGG Jesko ออกแบบให้เรียบลื่นโค้งมนตั้งแต่หัวจรดท้าย โดยด้านหน้าช่องดักอากาศขนาดใหญ่พิเศษสองช่อง มีลิ้นล่างขนาดใหญ่คอยดักอากาศยื่นคลุมปลายกันชนล่างทั้งชิ้น มุมยกกระดกขึ้นเพื่อจัดอากาศให้วิ่งตามแนวสเกิร์ตข้างที่ดีไซน์มาในรูปแบบเดียวกัน ก่อนอากาศจะผ่านคาร์นาดหน้าไปยังคาร์นาดหลังช่วงสะโพก เพื่อรับอากาศเข้าไประบายความร้อนเครื่องยนต์

วัสดุที่ใช้เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วงฝากระโปรงหน้าเจาะช่องขนาดใหญ่เพื่อให้อากาศวิ่งจากด้านล่างผ่านช่องฝากระโปรง ก่อนวิ่งผ่านหลังคาขนาดย่อมและโค้งไปเจอกับหางหลังขนาดใหญ่ดีไซน์แปลกตา โดยฐานของหางหลังคาร์บอนไฟเบอร์ขนาดใหญ่ เกาะอยู่กับกระจกหลังทั้งบานก่อนกระดกขึ้น โดดเด่นด้วยโคมไฟท้ายเรียวเล็กแบบ LED กันชนหลังถูกพื้นที่ของ Diffuser ครอบคลุมเกือบทั้งหมด ล้อแม็กคาร์บอนไฟเบอร์ขนาดของล้อด้านหน้าขอบ 20 นิ้ว กว้าง 9.5 นิ้ว น้ำหนักเพียง 5.9 กก. ด้านหลังขอบ 21 นิ้ว กว้าง 12 นิ้ว น้ำหนัก 7.4 กก.

Jesko ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความเร็วอย่างเดียว แต่ภายในห้องโดยสารยังมอบความสะดวกสบาย เบาะนั่งทรงสปอร์ตห่อหุ้มสรีระได้เป็นอย่างดี การเข้าออกห้องโดยสารใช้เทคโนโลยี Autoskin มันคืออุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ที่ไปควบคุมระบบไฮดรอลิคส์ให้ทำงานโดยอัตโนมัติ เป็นการสั่งงานให้ประตูเปิด/ปิด ผ่านปุ่มบนกุญแจรีโมท จอเรือนไมล์แบบ TFT ขนาด 9 นิ้ว วางอยู่บริเวณคอพวงมาลัยแบบ 2 ก้านใหญ่ตัดขอบบน/ล่าง ในสไตล์รถแข่ง F 1 จอแสดงผลกลางคอนโซลหน้าขนาด 5 นิ้ว พร้อมช่องการเชื่อมต่อ USB, Bluetooth

ขุมพลังมหาศาลจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 Twin Turbo ขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดแบ่งออกเป็น 2 สเต็ป กรณีแรกถ้าเติมเป็นซิน 95 ตัวเลขจะออกมาที่ 1,280 น แรงม้า อีกกรณีถ้าเติม E85 กำลังสูงสุดที่ได้จะเพิ่มขึ้นมาทันทีอยู่ที่ 1,600 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 1,500 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ 2,700-6,170 รอบ/นาที ท้อปสปีดทางโรงงานอยู่ที่ 300 ไมล์/ชม. หรือ 480 กม./ชม. ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ 9 สปีด

KOENIGSEGG Jesko ผลิตมาในจำนวนจำกัดเพียง 125 คันเท่านั้น สนนราคาตีเป็นบาทไทย 90 ล้านบาท

เครดิต: ยานยนต์

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์