15
ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย โดยคิดเป็นร้อยละ 46 ของประชากรไทยทั้งหมด แต่อาจจะยังมีบางคนที่สงสัยว่า อาการที่ตนเองกำลังประสบอยู่นั้น เป็นอาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือเป็นเพียงอาการของโรคหวัดกันแน่
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และโรคหวัดเป็นโรคที่พบร่วมกันได้บ่อย โดยทั่วไปในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวจะป่วยเป็นหวัดประมาณปีละ 2 ครั้ง ในขณะที่ในเด็กเล็กจะป่วยเป็นหวัดประมาณปีละ 4-6 ครั้ง แต่ถ้าเป็นทุกเดือนให้ระวังไว้ว่าอาจเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ถึงแม้ว่าทั้ง 2 โรคนี้จะมีอาการหลายอย่างที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สามารถสังเกตได้ดังนี้
อาการภูมิแพ้
- คันจมูก
- จามติดๆ กัน
- น้ำมูกใส
- คัดแน่นจมูก
หากคุณมีอาการตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป และเป็นนานกว่า 1 ชั่วโมงในแทบทุกวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย และการรักษาที่เหมาะสม เพราะมีความเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะเป็น โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ซึ่งนอกจากอาการเหล่านี้แล้ว ยังมีอาการอื่นๆ ที่อาจพบร่วมในผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ได้แก่ โรคภูมิแพ้อื่นๆ (เช่น ภูมิแพ้ทางตาและผิวหนัง) โรคหืด ความสามารถในการรับกลิ่นลดลง นอนกรน น้ำมูกไหลลงคอ คันคอ ไอเรื้อรัง หูอื้อหรือมีเสียงในหู เป็นต้น เนื่องจากสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยในคนไทย คือ ไรฝุ่น ซึ่งมักพบในห้องนอน ทำให้ผู้ป่วยมีอาการในตอนกลางคืน ส่งผลต่อคุณภาพการนอน และการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นเราทุกคนจึงควรหมั่นสังเกตตัวเอง ว่ามีอาการดังที่กล่าวมาหรือไม่ เพื่อที่จะได้ไปพบแพทย์ และรับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป
ข้อแตกต่างระหว่างโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และโรคหวัด | ||
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ | โรคหวัด | |
อาการ | คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล (อาจพบอาการไข้ในกรณีที่เป็นภูมิแพ้ และมีหวัดแทรกซ้อน) | อาจมีไข้และเมื่อยตัว |
การเกิดอาการ | เกิดอาการเมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ | อาการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเวลา 1-2 วัน |
ระยะเวลาการเกิดอาการ | คงอยู่ตลอด | หายภายใน 1 สัปดาห์ |
อีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ มักมีขอบตาล่างคล้ำเหมือนหมีแพนด้า เนื่องจากการคัดจมูกเป็นเวลานาน ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยคั่งบริเวณใต้ตา จึงทำให้ขอบตาคล้ำ
เครดิต: HealthToday
ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์