9
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ส่งสัญญาณมาระยะหนึ่งแล้ว ในเรื่องการเปิดเสรีอัตราเบี้ย ประกันภัย ที่จะผ่อนคลายให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อรองรับการเปิดเสรีธุรกิจ ประกันภัย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. กล่าวถึงทิศทางและนโยบายในการพัฒนาธุรกิจ ประกันภัย ว่า เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจ ประกันภัย มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ทางสำนักงาน คปภ.จะผ่อนคลายการกำกับอัตราเบี้ย ประกันภัย โดยจะเริ่มต้นจากกรมธรรม์แบบอัตโนมัติ (File & Use) ต่างๆ อาทิ ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือ พีเอ (Personal Accident Insurance) ประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง หรือ ทีเอ (Travel Accident Insurance) หลังจากนั้นจะผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไปไปยัง ประกันภัยประเภทอื่น อาทิ ประกันภัยรถยนต์ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี เพื่อรองรับการเปิดเสรีอัตราเบี้ย ประกันภัย นั้น ทางสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้มีการทบทวนพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ (Tariff) ใหม่ และเตรียมจะนำเสนอสำนักงาน คปภ. เร็วๆ นี้ โดย อานนท์ วังวสุ เลขาธิการสมาคมฯ เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้มีการทบทวนพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ทั้งระบบใหม่อีกครั้ง ซึ่งได้ข้อสรุปจะปรับอัตราเบี้ย ประกันภัย ขั้นต่ำ (Minimum) ลงอีกไม่เกิน 20% สำหรับ รถยนต์ ทุกรหัส ในขณะเดียวกันจะปรับอัตราเบี้ย ประกันภัย ชั้นสูง (Maximum) เพิ่มขึ้นอีก ไม่เกิน 20% เช่นกัน สำหรับรถที่มีอัตราสินไหมทดแทน (Loss Ratio) สูง หรือมีเบี้ย ประกันภัย ไม่เพียงพอกับความเสี่ยง ได้แก่ กลุ่ม รถบรรทุก ประเภท รถพ่วง รถขนส่งวัตถุอันตราย ฯลฯ
ถามว่าการปรับลดพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัย ขั้นต่ำลงอีก ยิ่งจะทำให้ บริษัทประกันภัย แข่งขันด้านราคารุนแรงมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งจริงๆ แล้ว บริษัทประกันภัย ที่จะแข่งขันต้องดูดความสามารถ และต้นทุนของตัวเอง โดยการปรับอัตราเบี้ย ประกันภัย ขั้นต่ำลดลงอีกนั้น ไม่ได้บังคับให้ บริษัทประกันภัย ทุกแห่งต้องขายอัตราใหม่นี้ ขึ้นอยู่กับต้นทุนของ บริษัทประกันภัย หากใครสามารถขายในราคาที่ต่ำลง ตามอัตราใหม่ได้ก็ทำ แต่หากใครมีต้นทุนสูงไม่สามารถขายในราคานี้ได้ ก็ไม่ต้องลดเบี้ย ประกันภัย ลงมาแข่งขัน ทั้งนี้เพื่อให้ บริษัทประกันภัย ดูแลตัวเองมากขึ้น เพราะอีกหน่อยเมื่อมีการเปิดเสรี ก็ไม่มีพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัย แล้ว
แหล่งข่าวจาก บริษัทประกันภัย แห่งหนึ่งให้ความเห็นว่า ปัจจุบันแม้ ประกันภัยรถยนต์ จะมีพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัย คลุมอยู่ แต่ก็เหมือนไม่มีอยู่แล้ว เพราะในตลาดเล่นสงครามราคากันหนักมาก ขายเบี้ย ประกันภัย ต่ำกว่าพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัยขั้น ต่ำที่ คปภ.กำหนดไว้ การปรับอัตราขั้นต่ำลงอีก เพื่อให้ทุกบริษัทที่ขายต่ำกว่าอัตราขั้นต่ำได้ ทำให้ถูกต้องตามพิกัดที่ควรจะเป็นเท่านั้น
ทุกวันนี้ผู้บริโภคได้ประโยชน์จากการแข่งขันแบบกึ่งเสรีอยู่แล้ว ขายต่ำกว่าพิกัดขั้นต่ำสุด วันนี้ราคาเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ชั้น1 ถูกกว่าเมื่อ 10 ปีก่อน 50% อัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ชั้น1 ในสมัยก่อน จะอยู่ระหว่าง 3-4% ของทุน ประกันภัย แต่ปัจจุบันลดลงมาเหลือ 1.5-2.5% ของทุน ประกันภัย ซึ่งสวนทางกับค่าแรง ค่าอะไหล่ ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-20% ทุกปี ตัวเลข Loss Ratio ประกันรถยนต์ ก็ขยับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 55-60% เพิ่มขึ้นเป็น 60-65% เบี้ย 100 บาท จ่ายค่าสินไหม 65 บาท ค่าคอมมิสชัน 20 บาท ค่าบริหาร 20 บาท ก็เกินเบี้ยแล้ว สำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งการแข่งขันอย่างรุนแรงเช่นนี้ จะเกิดหายนะแก่บริษัทที่รับ ประกันภัยรถยนต์ อย่างแน่นอน
เครดิต: สยามอินชัวร์ นิวส์
ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์