ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประกันภัยทั่วไป

หลีกเลี่ยงอาหารเช้า เสี่ยงให้เกิดโรคเบาหวาน

รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ จะลดภาวะผิดปกติของฮอร์โมนอินซูลิน ภาวะดื้อของอินซูลิน สาเหตุของโรคเบาหวาน

หลีกเลี่ยงอาหารเช้า เสี่ยงให้เกิดโรคเบาหวาน

มีนาคม

20

"อาหารเช้า" ถือว่าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญมากที่สุด แต่ด้วยชีวิตที่เร่งรีบ จนทำให้พลาดมื้ออาหารที่สำคัญไป บางคนเลือกที่จะทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ เร็วๆ และไม่ได้ใส่ใจในคุณค่าทางอาหาร จากการสำรวจพบว่าคนทำงาน มีเพียงครึ่งเดียวที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ แต่เด็กในวัยเรียนร้อยละ 30 โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง ไม่กินอาหารเช้า ซึ่งกรมอนามัยได้เปิดเผยว่า หากไม่รับประทานอาหารเช้า อาจเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้

จากผลสำรวจพฤติกรรมการกินอาหารเช้า โดยสำนักโภชนาการกรมอนามัย พบว่ากลุ่มวัยทำงานอายุระหว่าง 20-60 ปี ร้อยละ 59.55 กินอาหารเช้าเป็นประจำ ส่วนร้อยละ 24.09 กินอาหารเช้าเกือบทุกวัน ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบระหว่างเพศชายและเพศหญิง พบว่า เพศชายกินอาหารเช้าทุกวัน มากกว่าเพศหญิงร้อยละ 64 ในขณะที่เพศหญิงกินอาหารเช้าร้อยละ 57.24

อดอาหารเช้า เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน

การไม่รับประทานอาหารเช้า จะส่งผลให้การเริ่มต้นระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานช้าลง ร่างกายจึงรู้สึกหิวตลอดเวลา และกินอาหารในมื้อถัดไปมากยิ่งขึ้น กินจุบกินจิบ และมักเลือกเมนูอาหารที่ให้พลังงานสูง ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การอดอาหารเช้า ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน เนื่องจากคนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ จะลดภาวะผิดปกติของฮอร์โมนอินซูลิน หรือภาวะดื้อของอินซูลิน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานได้ถึงร้อยละ 35-50 และผลการวิจัยจากสมาคมแพทย์โรคหัวใจในอเมริกายังพบว่า การรับประทานอาหารเช้าอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดสมอง และโรคหัวใจอีกด้วย

หลักโภชนาการ ควรกินอาหารให้ครบ 3 มื้อ

โดยเฉพาะมื้อเช้าซึ่งถือเป็นมือที่สำคัญมาก หากไม่มีเวลาเตรียมอาหารเช้าก็ควรเพิ่มเวลาสัก 10-20 นาที เพื่อออกไปเลือกเมนูอาหารเช้าที่เหมาะสมนอกบ้าน เพราะทุกวัยโดยเฉพาะเด็กวัยเรียนเป็นวัยที่ต้องการพลังงาน สารอาหารที่ครบถ้วน และหลากหลายให้เพียงพอต่อร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงน้ำอัดลม ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนของเด็กไทย พร้อมทั้งควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง เพราะการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ทำให้สมองสามารถเรียนรู้ จดจำ มีสมาธิ พร้อมเริ่มวันใหม่ ตลอดจนทำกิจกรรมการเรียนรู้กับเพื่อนได้อย่างดี ควบคู่กับสุขภาพ แข็งแรงอีกด้วย

สำหรับการเตรียมอาหารเช้าให้เด็กวัยเรียน ต้องเป็นเมนูที่ถูกหลักโภชนาการ มีโปรตีนสูง และเตรียมง่าย เช่น ข้าวต้มเครื่อง โจ๊ก ข้าวผัด อาหารประเภทซีเรียลผสมนมรสจืด ขนมปังแซนด์วิช สำหรับข้าวเหนียว- หมูปิ้ง ซึ่งเป็นเมนูอาหารเช้าที่หาซื้อได้ง่าย ต้องเลือกเป็นหมูปิ้งที่ไม่ติดมัน ไม่ใหม้เกรียมจนเกินไป และควรเพิ่มผักสด เพื่อเป็นการฝึกให้เด็กกินผักด้วย ควรใช้ผักที่ไม่มีกลิ่นฉุน และรสขม เช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ผักบุ้ง แครอท ที่สำคัญควรเตรียมนมรสจืด 1 กล่อง และผลไม้ประมาณ 1 ผล เช่น ส้ม แอปเปิล ชมพู เพื่อให้เด็กได้คุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมและครบถ้วน

อาหารเช้าถือว่าเป็นมื้อที่มีประโยชน์ต่อทุกเพศทุกวัย และให้พลังงานประมาณ 400-450 กิโลแคลอรี ควรเลือกอาหารเช้าให้มีความหลากหลาย ปรุงสุก สด ใหม่เสมอ หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูป เพราะมีสารอาหารที่มีประโยชน์น้อย และมีโซเดียมสูง แต่สามารถเลือกซื้ออาหารปรุงสำเร็จที่มีขายทั่วไปได้ เช่นข้าวต้มหมู ไก่ ข้าวผัดหมูใส่ไข่ ข้าวไข่เจียว บะหมี่ผัด ข้าวหมูทอด และเพิ่มผักสด ผลไม้สด เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน

เครดิต: สุขภาพ (DECEMBER 2017)

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์