ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารด้วยวิวัฒนาต่างๆ เปลี่ยนแปลง จนมีผลถึงการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เปลี่ยนไปมาก เกิดสังคมออนไลน์ โลกโซเชี่ยล ทำให้ธุรกิจออนไลน์เจริญเติบโต อำนวยความสะดวกต่อทั้งคนที่ต้องการสินค้าและผู้ขาย ติดต่อทำข้อตกลงซื้อขายกันสะดวกรวดเร็ว จนกระทั่งอาจเป็น “ดาบสองคม”

ทุกวันนี้แทบจะทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ต ข้อมูลต่างๆ อยากรู้เรื่องอะไรค้นหากันดูได้ในเว็บไซต์ คิดอะไรไม่ออกให้ไปถาม Google มีการเผยแพร่เรื่องราว นำเสนอสินค้า ผ่านเพื่อนๆ หรือกลุ่มเป้าหมาย ทางช่องทาง Facebook แต่บางครั้งมีบางส่วนที่เป็นข้อมูลเมือนจริง หรือเรื่องที่เมคขึ้นมา

สิ่งที่เราต้องระมัดระวังในการใช้งาน เนื่องจากการ “หาซื้อง่าย ขายคล่อง” หาสิ่งของที่ต้องการได้หลากหลาย บางครั้งให้ไปเลือกซื้อเอง..ยังคิดไม่ออกว่าจะเป็นไปได้อย่างไร แต่มันอาจจะกลับกลายเป็นผลลบ ทำให้เสียเงินไปเปล่าๆ ถ้าติดตามข่าวสารก็พอจะรู้กันถึงกลโกง มิจฉาชีพ สารพัด ทั้งหลอกขายของที่ไม่มีคุณภาพไม่ตรงกับรูปภาพ ทั้งหลอกขายภาพเปล่าแต่ไม่มีสิ่งของ หรือแม้กระทั่งเอารูปจากเว็บมาหลอกขาย แต่พอเจอของจริงคนละขั้วโลกอื่นๆ อีกมากมาย หลายคนต้องหลงกล โอนเงินให้ไปก่อนได้ของ ซึ่งต้องวัดใจว่าจะได้ของดีอย่างที่ต้องการ หรือว่าได้ของห่วย หรือแม้กระทั่งไม่ได้ของเลยสูญเปล่า เพราะมันค่อนข้างเสี่ยง ถึงเสี่ยงมาก

สิ่งที่ต้องรู้คือ ประวัติพ่อค้าแม่ค้าผ่านช่องทางโซเชียล ค้นหาชื่อ หรือเบอร์โทรศัพท์ แล้วลองไปเปิดหาดูใน Google ถ้าประวัติเสียรับรองมันโชว์หราแน่ เพราะคนที่เคยโดนได้นำมาบอกกล่าว แต่ถ้าเช็คแล้วไม่มีประวัติก็ต้องดูว่า เพจเค้าเปิดขายได้นานหรือยัง หรือเพิ่งเปิด เนื่องเพจชั่วคราวมีเยอะ มีหน้าร้านหรือเปล่า ลองพิจารณาดู นัดดูส่งของ ส่งของเรียกเก็บเงินปลายทาง อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเล็กน้อย แต่แลกกับความสบายใจ สินค้ามาถึงมือแล้วก็จริง ก่อนจ่ายเงินให้เราจัดการแกะกล่องดูสินค้าที่เราสั่งเลย บอกให้คนส่งรอนิดหนึ่ง แล้วดูสินค้าตรงตามที่ต้องการหรือเปล่า คุณภาพตามที่พ่อค้าแม่ค้าบอกไหม ถ้าดูแล้วโอเคก็ค่อยจ่ายเงินให้คนส่งของไป แต่ถ้าไม่โอเค ให้รีบแจ้งไปยังพ่อค้าหรือแม่ค้าที่ขาย เพื่อให้รู้ว่าของที่สั่งซื้อไม่ตรงตามที่ตกลง ไม่จำเป็นต้องรับของ

ถ้าไม่มีแบบเรียกเก็บเงินปลายทาง จำเป็นต้องโอนจริงๆ ให้เราติดต่อกับคนขาย ถ่ายภาพสินค้าของจริงรวมถึงเวลาบรรจุ แล้วถ่ายขั้นตอนการส่งให้ดู ขอชื่อที่อยู่จัดส่ง ว่าเป็นชื่อเรา ที่อยู่เราให้ชัดๆ ก่อน ขอเลขรับส่งพัสดุ เพื่อให้ไว้คอยเช็คว่าพัสดุที่ส่งมา ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว หลังจากส่งก็พยายามติดต่อกับพ่อค้าแม่ค้าบ่อยๆ เพื่อเช็คดูว่าเบอร์โทรศัพท์นั้น คงใช้งานได้อยู่หรือเปล่า เคยมีคือส่งสินค้าเสร็จ พอโทรศัพท์กลับไปหา ปิดเบอร์หนีไปเลยก็มี แต่แม้จะทำแบบนี้แล้วหลายคนก็ยังโดนโกง หรือโดนลูกเล่นพิศดารต่างๆ นานา จึงต้องระวังและทำใจด้วย ทางที่ดีซื้อขายแลกเปลี่ยนกันแบบ เห็นหน้าเห็นตา เห็นของ เลยจะดีที่สุด

เครดิต: ยานยนต์ (ปีที่ 50 เล่มที่ 618)

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์