“โตเกียวมารีน” ตรึงเป้าปีนี้โต 3% เบี้ย 7,800 ล้าน แม้ 9 เดือนทำผลงานเยี่ยม โต 5% ผ่าแผนปีหน้าโคตรเด็ด ซุ่มทำคลอดสินค้าใหม่เอี่ยมพียบ ทั้ง “ประกันเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร” รายแรก หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน บริษัทผ่อนสินเชื่อแทนเกษตรกรทันที อีกตัวเป็น “ประกันอีเวนต์” คุ้มครองงานถูกยกเลิก ดึงโนว์ฮาวเครือข่ายบริษัทแม่ “ประกันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก” ต่อยอด

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีผลประกอบการดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมามาก โดยในช่วง 9 เดือน มีเบี้ย ประกันภัยรับ 5,961 ล้านบาท เติบโต 5% เทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจาก ประกันภัยรถยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 11% เป็นผลมาจากการมีพันธมิตรทางธุรกิจ กลุ่มผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่าย รถยนต์ ทั้งดีลเลอร์และไฟแนนซ์ที่ค่อนข้างแข็งแรง อาทิ มิตซูบิชิ โตโยต้า อีซูซุ ซูซูกิ ฮอนด้า นิสสัน และฮุนได อีกส่วนหนึ่งมาจากพันธมิตรรายใหม่ ที่เพิ่งเข้าไปร่วมโครงการในปีนี้ คือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ในระดับบน หรือกลุ่มพรีเมี่ยมเพิ่มขึ้นมาได้

อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ที่ตั้งไว้ประมาณ 3% หรือมีเบี้ย ประกันภัย รับประมาณ 7,800 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำได้ แยกเป็น ประกันรถยนต์ 45% และ ประกันภัย ไม่ใช่รถยนต์ (นอนมอเตอร์) 55%

สำหรับในปีหน้า บริษัทยังคงมุ่งเน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณภาพ เพื่อรักษาลูกค้าระยะยาวผ่าน 3 ช่องทางจำหน่ายหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มลูกค้าเครือข่ายบริษัทญี่ปุ่น และลุ่มแม่น้ำโขง 2.กลุ่มลูกค้าผู้แทนจำหน่าย รถยนต์ ทั้งดีลเลอร์ ไฟแนนซ์ และ3.กลุ่มลูกค้าตัวแทนและโบรกเกอร์ โดยการขยายช่องทางผู้แทนจำหน่าย รถยนต์ ทั้งดีลเลอร์และไฟแนนซ์ ที่มีสัดส่วนในเบี้ย ประกันภัย มากที่สุด 54% นั้น เนื่องจาก ประกันภัยรถยนต์ กำลังเติบโตมาก ดังนั้นบริษัทเตรียมจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น ประกันภัย คุ้มครองผู้เช่าซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นบริษัทแรก โดยกรมธรรม์นี้จะให้ความคุ้มครองกรณีผู้เช่าซื้อที่เป็น เกษตรกร เสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร ไม่ต้องผ่อนสินเชื่ออีก บริษัทจะผ่อนสินเชื่อต่อให้

ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกประเภทหนึ่งที่มองว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ และน่าจะนำมาทำตลาดในประเทศไทยได้คือ ประกันภัย การจัดงานต่างๆ (Event Insurance) เนื่องจากมองว่า ในประเทศไทยมีการจัดงานต่างๆ ค่อนข้างมาก อาทิ งานเกี่ยวกับกีฬา งานคอนเสิร์ตต่างๆ จึงมีโอกาสที่จะขยายได้ โดยจะนำประสบการณ์ของบริษัท HCC Insurance Holdings, Inc. ซึ่งเป็น บริษัทประกันภัย สัญชาติอเมริกัน ที่บริษัทแม่เข้าไปซื้อกิจการมามูลค่ากว่า 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 255,000 ล้านบาท เมื่อปี 2558 ซึ่งทาง HCC ทำตลาดนี้อยู่แล้ว จะนำมาต่อยอดในประเทศไทย

“HCC เขาทำตลาด ประกันภัย นี้ในอเมริกาและยุโรป ซึ่งได้รับความนิยมมาก อย่างฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเขาก็ดูแลอยู่ เป็น ประกันภัย ที่คุ้มครองความเสียหายเนื่องจาก งานถูกยกเลิกไป หรือไม่สามารถจัดงานนั้นได้ โดยคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากงานถูกยกเลิก เช่น มาดอนน่าจะมาเปิดคอนเสิร์ต เกิดป่วยหรือแสดงไม่ได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ประกันภัย จะมาจ่ายให้ ตอนนี้เรากำลังสำรวจตลาดในเมืองไทยอยู่ว่าจะเหมาะกับ อีเวนต์ แบบไหน”

ช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทนและโบรกเกอร์ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมาก และต้องการสร้างการเติบโต โดยในอนาคตมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนเบี้ย ประกันภัย จากช่องทางนี้เป็น 10-15% จากปัจจุบันทำได้ 5% ผ่านโครงการพัฒนาศักยภาพของตัวแทนหรือ ProjectA ซึ่งเป็นรูปแบบในการพัฒนาได้ศักยภาพของตัวแทน ที่ประสบความสำเร็จจากประเทศญี่ปุ่น มาปรับใช้กับตัวแทนในประเทศไทย โดยจะทำ 2 ส่วน คือ พยายามสื่อสารให้กับตัวแทนและโบรกเกอร์มากยิ่งขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ทำให้ตัวแทนเข้าใจได้ง่ายขึ้น และขายได้ง่ายขึ้น

สำหรับตลาดนอนมอเตอร์ เป็นตลาดที่มีโอกาสจะขยายได้อีก อาทิ ประกันภัยการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันคนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น อีกทั้งการที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง “ฮับ” ส่งออก รถยนต์ ไปยังประเทศต่างๆ ใน เออีซี รวมไปถึงการพัฒนาระบบขนส่งต่างๆ สร้างโอกาสในการเติบโตด้านธุรกิจ ประกันภัย ทางทะเลและขนส่ง (มารีน) ให้กับบริษัท ซึ่งกลุ่ม โตเกียวมารีน ทั่วโลก มีจุดแข็งในตลาดนี้อยู่แล้ว จะรักษาความเป็นเบอร์ 1 ในตลาดนี้ต่อไป

เครดิต: สยามอินชัวร์ นิวส์

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์