ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประกันภัยทั่วไป

เลือกซื้อ ประกันสุขภาพ เพื่อลดหย่อนภาษี

คลัง กำหนดเงื่อนไข ประกันสุขภาพ แบบไหน ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ สำหรับคนที่ซื้อในปี 2560

เลือกซื้อ ประกันสุขภาพ เพื่อลดหย่อนภาษี

ธันวาคม

22

หลังจากที่กระทรวงการคลังได้ออกกฎหมาย รองรับการนำเบี้ย ประกันสุขภาพ ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยมีการลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา

คนที่ซื้อประกันสุขภาพในปี 2560 จากบริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย หรือ บริษัทประกันสุขภาพ โดยตรง สามารถนำเบี้ย ประกันภัย มาหักลดหย่อนภาษีได้ ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท แต่เมื่อรวมกับการหักลดหย่อนเบี้ย ประกันชีวิต ทั่วไปแล้ว ต้องไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี

กรณีซื้อเฉพาะ ประกันชีวิตแบบบำนาญ เมื่อรวมกับเบี้ย ประกันสุขภาพ สามารถนำไปหักลดหย่อนได้ 2.15 แสนบาท/ปี เมื่อรวมกับเงินที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพแล้ว ต้องไม่เกิน 5 แสนบาท/ปี

ประกันสุขภาพที่ลดหย่อนภาษีได้

นายกสมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันชีวิตไทย ระบุว่า แบบ ประกันสุขภาพ ทีสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ต้องเข้าเกณฑ์ ดังนี้

1. การ ประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับ การรักษาพยาบาล อันเกิดจากการเจ็บป่วย และบาดเจ็บ การชดเชยการทุพพลภาพ และการสูญเสียอวัยวะ เนื่องจากการเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บ
2. การประกันอุบัติเหตุ เฉพาะที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล
3. การประกันภัย โรคร้ายแรง
4. การประกันภัย การดูแลระยะยาว

ถ้าเงื่อนไขความคุ้มครองเข้าลักษณะข้างต้น ก็สามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้

ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อ

ก่อนเลือกซื้อ ประกันสุขภาพ ควรจะพิจารณาว่า เมื่อซื้อแล้วทาง บริษัทประกันภัย ให้ร่วมจ่าย ค่ารักษาพยาบาล หรือไม่ต้องร่วมจ่าย ก็อยู่ที่ผู้ซื้อต้องการ

- สามารถใช้บริการโรงพยาบาลใดก็ได้
- ไม่มีปัญหาในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
- บริษัทประกันภัย ควรจะมีการจ่ายค่ารักษาโดยตรงให้กับทางโรงพยาบาล
- วงเงินความคุ้มครองต่อปี หรือต่อการรักษา มีมูลค่าสูง
- มีการจ่ายผลกำไร หรือการเงินเงินคืนบางส่วน กรณีไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

ปัจจุบันคนไทยมีความสนใจเกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มขึ้น โรคที่สร้างความกังวลอย่างมากเป็นอันดับต้นๆ คือ โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ซึ่งทั้งสวัสดิการพื้นฐานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการประกันสังคม ซึ่งครอบคลุมประชาชน 14 ล้านคน สวัสดิการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ครอบคลุมประชาชน 49 ล้านคน และสวัสดิการข้าราชการ ที่ครอบคลุมประชาชน 5 ล้านคน และประกันสุขภาพที่สมัครใจทำด้วยตัวเอง จะให้ความคุ้มครองทั้งสองโรคข้างต้น แต่มีรายละเอียดการให้ความคุ้มครอง และการรักษาที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ สวัสดิการการรักษาของรัฐ จะจ่ายค่ารักษาตามจริงในโรคที่ให้ความคุ้มครอง แต่การเข้ารับการรักษา จะต้องใช้โรงพยาบาลรัฐ หรือโรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง ซึ่งจะต้องรอนาน เพราะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก และต้องพบแพทย์ทั่วไป เพื่อวินิจฉัยก่อนส่งไปหาแพทย์เฉพาะทาง

ในขณะที่ ประกันสุขภาพ แบบสมัครใจ สามารถใช้บริการโรงพยาบาลเอกชน ที่มีแพทย์เฉพาะทางได้เลย ไม่ต้องรอนาน แต่ความคุ้มครองจะจำกัดตามความสามารถ ในการจ่ายเบี้ย ประกันภัย ของผู้ซื้อ ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ประโยชน์จากทั้งสองระบบ เพื่อให้เกิดการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เครดิต: โพสต์ทูเดย์

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์