2
หน่วยงานกำกับดูแลภาคการเงินและ ประกันภัย ของ อินโดนีเซีย ได้แก้ไขกฎเกณฑ์การลงทุนของ บริษัทประกันภัย และสถาบันการเงินอื่นๆ ที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือนอนแบงก์ (non-bank) ใหม่ ให้สามารถเข้าไปลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ได้มีการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคม ปี 2559 ได้บังคับใช้กฎระเบียบใหม่ ที่กำหนดให้ บริษัทประกันภัย กองทุนบำนาญ และนอนแบงก์ รักษาสัดส่วนการลงทุนขั้นต่ำใน พันธบัตรรัฐบาล ไว้ในพอร์ตการลงทุน เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดตราสารหนี้ภายในประเทศ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ได้บังคับใช้กฎระเบียบการลงทุนใหม่ที่ปรับปรุงจากของเดิม ด้วยการขยายกรอบผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุนให้กว้างขึ้น โดยให้รวมถึง ตราสารต่างๆ ที่ออกโดย บริษัทของรัฐบาล และบริษัทย่อย ที่มีเป้าหมายเพื่อระดม เงินทุนสนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล
ธนาคารโลก หรือ เวิลด์ แบงก์ (World Bank) คาดว่าอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะต้องใช้จ่ายเงินถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16.5 ล้านล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานในอีก 5 ปีข้างหน้า และการใช้จ่ายของภาครัฐอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ
เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อินโดนีเซีย กล่าวว่า เตรียมเสนอร่างข้อบังคับใหม่ ที่จะอนุญาตการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment) ในอุตสาหกรรม ประกันภัย เพิ่มขึ้นเป็น 80% ซึ่งข้อจำกัดการถือครองหุ้นของชาวต่างชาติใน บริษัทประกันภัย ที่กำหนดสัดส่วนสูงสุด 80% เป็นข้อเสนอในร่างข้อบังคับของรัฐบาลเกี่ยวกับการ ประกันภัย โดยให้เหตุผลว่า หากนักลงทุนต่างชาติมีความสามารถในการรับความเสี่ยงในระดับสูงนี้ได้ รัฐบาลจะพิจารณาขยายบทบาทของต่างชาติในระดับหนึ่ง
รมว. คลัง กล่าวว่า จากการศึกษาของรัฐบาลตลอด 25 ปีที่ผ่านมา พบว่านักลงทุนในประเทศไม่เต็มใจที่จะลงทุนในอุตสาหกรรม ประกันภัย เนื่องจากลักษณะธุรกิจเป็นระยะยาว แต่อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายคนคัดค้านก็เสนอนี้ พวกเขาต้องการกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นของชาวต่างชาติไว้ที่ 49% เท่านั้น
เครดิต: สยามอินชัวร์ นิวส์
ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์