เผยเหตุการณ์ความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดึงดูดคน ประกันภัย ป้องกันความเสี่ยงน้อยกว่า ไฟไหม้ ให้ตระหนักมากขึ้น คปภ.ชี้ “คาร์บอมบ์” บิ๊กซี ปัตตานี เสียหายหนัก แนะพื้นที่เสี่ยงทำ ประกันภัย กรมธรรม์ก่อการร้าย พร้อมเร่งบริษัท ประกันภัย จ่ายเคลมกรณีเกิดเหตุล่าสุด เบื้องต้น รถยนต์ เสียหาย 20 คัน “วีออส-ยาริส” นำร่องเคลม ประกันภัย แล้วกลับ กรุงเทพประกันภัย และ เมืองไทยประกันภัย ขณะที่ “บิ๊กซี” เร่งสำรวจความเสียหายทรัพย์สิน ก่อนยื่นเคลมกับ “อาคเนย์”

จากกรณีเกิดเหตุ “คาร์บอมบ์” มีกลุ่มคนร้ายขับ รถยนต์ กระบะ ประกอบระเบิด จอดทิ้งไว้บริเวณประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ถนนหนองจิก ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี และจุดชนวนระเบิด ส่งผลทำให้ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตัวอาคารห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมากนั้น

เลขาธิการสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์คาร์บอมบ์ครั้งนี้ คนมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงครั้งใหญ่สุดที่เกี่ยวกับภาคธุรกิจ ซึ่งอาจจะทำให้คนหันมาสนใจซื้อกรมธรรม์ก่อการร้ายมากขึ้นในจังหวัดพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาแม้จะมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยงบ่อยครั้ง แต่เมื่อดูตัวเลขการซื้อกรมธรรม์ก่อการร้ายถือว่าน้อยมาก เนื่องจากคนในพื้นที่คิดว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะประสบกับตัวเอง และความเสียหายไม่ได้สูงเหมือนกับกรณีของ บิ๊กซี ปัตตานี ที่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินค่อนข้างเยอะ

“ถ้าเปรียบเทียบเหตุการณ์ก่อการร้าย กับเหตุการณ์ไฟไหม้ จะพบว่า ไฟไหม้เกิดขึ้นบ่อยกว่า คนส่วนใหญ่จึงไม่นิยมทำ ประกันภัย ก่อการร้าย โดยเฉพาะที่ผ่านมาการก่อการร้าย โอกาสที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจน้อยมาก”

ด้านเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ทางสำนักงาน คปภ.ขอให้ประชาชนให้ความสำคัญต่อการ ประกันภัย และเลือกซื้อกรมธรรม์ที่มีความเหมาะสมกับการดำเนินชีวิตของตัวเอง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยจากก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส) ควรเลือกซื้อกรมธรรม์ ประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองภัยจากการก่อการร้ายด้วย เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น ซึ่งระบบ ประกันภัย จะได้เข้าไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“สำนักงาน คปภ.มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงได้สั่งการให้สำนักงาน คปภ. ภาค 9 และสำนักงาน คปภ. จังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อประสานงานให้ความช่วยเหลือด้าน ประกันภัย อย่างใกล้ชิด ตลอดจนเร่งรัดบริษัท ประกันภัย ให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอา ประกันภัย เป็นการด่วน”

กล่าวถึงความคืบหน้า ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. จังหวัดปัตตานีว่า จากเหตุการตรวจสอบล่าสุดมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งสิ้น 61 คน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 ราย มี รถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหายประมาณ 15 คัน และ รถยนต์ ได้รับความเสียหายประมาณ 20 คัน มีการยื่นแจ้งเคลมแล้ว 2 คัน คือ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส มี ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจประเภท 1 คุ้มครองภัยก่อการร้าย ไว้กับ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2559 สิ้นสุด 29 ธันวาคม 2560 และมี รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส มี ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจประเภท 1 คุ้มครองภัยก่อการร้าย ไว้กับ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2560 สิ้นสุด 7 เมษายน 2561

ในส่วนห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี มี ประกันภัย ทรัพย์สินคุ้มครองภัยก่อการร้าย ไว้กับ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งความเสียหายด้านตัวอาคาร และทรัพย์สิน ของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีนั้น ยังอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายต่อไป

ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ.ได้ทำงานแบบบูรณาการ โดยตั้งศูนย์พิเศษบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีที่เกิดเหตุ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้าน ประกันภัย จากเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว และจะทำการประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่ายทั้งส่วนราชการ และชมรมตัวแทน ประกันชีวิต และ ประกันภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนตามสัญญา ประกันภัย สามารถยื่นเรื่องผ่านสำนักงานภาค 9 หรือสำนักงาน คปภ. จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับญาติ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ขอให้ญาติหรือผู้บาดเจ็บตรวจสอบการทำ ประกันชีวิต และการทำ ประกันภัย ว่าได้มีการทำ ประกันภัย อื่นๆ เพิ่มเติมไว้หรือไม่ หากมีการทำ ประกันภัย เพิ่มเติม ขอให้แสดงเอกสารและหลักฐานต่อบริษัท ประกันภัย เพื่อจะได้รับความคุ้มครองจากการทำ ประกันภัย อย่างครบถ้วนต่อไป

“ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของ สำนักงาน คปภ.ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง 61 ราย ได้มีการทำ ประกันชีวิต และ ประกันภัย ประเภทอื่นไว้ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้หากพบว่ามีการทำ ประกันภัย ไว้ สำนักงาน คปภ.ก็จะประสานงานช่วยเร่งรัดให้กับทางบริษัท ประกันภัย ที่เกี่ยวข้อง ให้จ่ายค่าสินไหมทดแทน และหากไม่ได้รับความสะดวก ขอให้แจ้งมายังสำนักงาน คปภ. หรือสายด่วน คปภ. 1186 ทาง คปภ.จะเร่งดำเนินการให้โดยเร็ว”

ที่มา : สยามธุรกิจ