ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประกันภัยทั่วไป

ติดกล้องลดเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ อย่าดื้อจนถึงกระดุมเม็ดสุดท้าย

คปภ.ถูกเร่งรัดมาจากรัฐบาล ทำให้ตัดสินใจบนข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน อาจกลายเป็นเบี้ย ประกันภัย ที่ยกเลิกส่วนลด บวกลบคูณหาร จ่ายเบี้ยแพงกว่าเดิม

ติดกล้องลดเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ อย่าดื้อจนถึงกระดุมเม็ดสุดท้าย

เมษายน
12

ในที่สุดเรื่องเป็นเรื่องแต่ทำไม่เป็นเรื่อง ต้องเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าจนได้ ต่อเมื่อสื่อมวลชนหลายแขนงต่างประโคมโหมข่าวความไม่พอใจของประชาชนต่อโครงการลดเบี้ย ประกันภัย ให้กับเจ้าของ รถยนต์ ที่ติดติดกล้อง CCTV ใน รถยนต์ คันที่เอา ประกันภัย และแน่นอนธุรกิจประกันวินาศภัยย่อมเป็นจำเลยที่ถูกกล่าวหาว่าไม่ยอมลดเบี้ย ประกันภัย ด้วยข้ออ้างว่ายังไม่มีความชัดเจนในคำสั่งดังกล่าว ปฏิกิริยาสะท้อนกลับของผู้คนในสังคมที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจ ประกันภัย ที่สังคมเริ่มให้การยอมรับว่ามีอารยะได้มาตรฐานสากล ต้องกลับมาเจอข้อหาเดิมๆ ราชาแห่งการปลิ้นปล้อนหลอกลวง ในขณะที่ปฏิกิริยาของคนในธุรกิจ ประกันภัย เริ่มอยู่ในภาวะเหนื่อยและท้ออย่างรุนแรง

การติดกล้องใน รถยนต์ ถ้าได้มองย้อนกลับไป คงจะพบภาพที่ลางเลือนถึงความเป็นมาและเป็นไปว่า มีวิวัฒนาการอย่างไร จนกลายเป็นนวัตกรรมแห่งความปลอดภัยบนท้องถนน ทั้งๆ ที่ประโยชน์ของกล้องติด รถยนต์ เป็นเพียงแค่บันทึกความจริงของอุบัติเหตุ ที่สามารถตรวจสอบได้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากพฤติกรรมของคน หรือความบกพร่องของตัว รถยนต์ หรือเกิดจากความไม่สมบูรณ์ทางกายภาพของเส้นทาง ส่วนติดตั้งแล้วจะทำให้ผู้ขับขี่ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะกลัว รถยนต์ คันอื่นใช้กล้องจับผิดหรือประจานนั้น ยังไม่มีรายงานวิจัยทางวิชาการมารองรับว่า ยังเป็นเพียงแค่จินตมโนกันเท่านั้นเอง ดังเห็นได้จากปรากฏการณ์ในทำนอง “กราบรถตรู” มีออกมาเสมอๆ

อย่างไรก็ดี แม้ว่ากล้องติด รถยนต์ ยังไม่สามารถชี้ชัดว่าช่วยลดอุบัติเหตุได้จริงหรือไม่ แต่ในแง่ของการ ประกันภัย ย่อมเป็นประโยชน์ยิ่งนัก ดังนั้นเมื่อมีประโยชน์แถมเป็นแฟชั่นนิยมของผู้คนในสังคม ทำให้บริษัทประกันวินาศภัยหลายๆ บริษัทเริ่มมีแนวคิดซื้อมาแจกฟรี หรือมาทำโปรโมชั่นให้กับลูกค้าของตนเอง ซึ่งสอดรับกับเป้าประสงค์ของสำนักงาน คปภ.ที่จะใช้มาตรการทางด้าน ประกันภัย มาจูงใจให้มีการติดตั้งกล้อง CCTV ใน รถยนต์ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความระมัดระวังมากขึ้น และส่งผลต่อเนื่องทำให้ช่วยลดอุบัติภัยบนท้องถนนได้

ต่อเมื่อเป้าประสงค์ตรงกันแต่กาลกลับว่า มรรคผลดีที่คาดหวัง กลายเป็นมรรคผลร้าย ดังกรณีการเกิดความไม่พึงพอใจของประชาชนที่กล่าวมาข้างต้นประกอบกับเรื่องราวที่ลำดับมา จึงอาจสรุปได้ว่ามูลเหตุของความไม่พอใจนี้ น่าจะเป็นเรื่อง “ชิงสุกก่อนห่าม” ของสำนักงาน คปภ. ซึ่งเห็นได้จากประกาศให้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 3 มีนาคม แต่สำนักงาน คปภ.พึ่งออกแนวปฏิบัติ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ว่าตามประสาชาวบ้าน เพิ่งออกแนวทางลดเบี้ยเอาต่อเมื่อชาวบ้านด่ากันสนั่นเมือง

แต่กระนั้นก็ต้องรับรู้ถึงข้อมูลอีกด้านหนึ่ง การชิงสุกก่อนห่าม นั้น เป็นเพราะทางสำนักงาน คปภ.ถูกเร่งรัดมาจากรัฐบาลให้รีบเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ จึงส่งผลต่อเนื่องทำให้สำนักงาน คปภ.ตัดสินใจบนข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางผู้รับผิดชอบสูงสุด คือ ท่านเลขาธิการ คปภ.ต้องไปจัดการกันเองภายในว่า ใครใส่พานให้บรรลัยอย่างนี้ อีกทั้งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ.จะไม่รู้ลึกรู้จริงหรือ ว่ากระบวนการรับ ประกันภัย ทุกวันนี้ บริษัท ประกันภัย มีระบบที่ทันสมัยขนาดไหน และถ้ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเรื่องขององค์ประกอบของราคาเบี้ย ประกันภัย บริษัทประกันภัยก็ต้องไปรื้อโปรแกรมการคำนวณเบี้ย ประกันภัย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร รวมไปถึงต้องใช้เวลาในการสร้างองค์ความรู้ให้กับพนักงาน เพื่อชี้แจงถึงลดเบี้ย ประกันภัย เพราะสำนักงาน คปภ.ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าจะต้องลดเท่าไหร่ ให้อยู่ในดุลยพินิจของแต่ละบริษัท ทั้งๆ ที่เด็กประถมยังรู้ว่า ถ้าเป็นดุลพินิจของผู้บริโภคย่อมที่จะเลือก 10% มากกว่า 5%

กระดุมเม็ดแรกที่กลัดผิด แทนที่สำนักงาน คปภ.จะหันกลับมากลัดกระดุมเสียใหม่ให้ถูกต้อง กลับกลัดกระดุมเม็ดต่อไป ดังเช่นเมื่อเกิดปัญหาการร้องเรียนของประชาชนขึ้นมาดังกล่าวข้างต้น แทนที่จะกลับมาทบทวนว่าปมปัญหาร้องเรียนเกิดมาจากอะไร และควรแก้ไขอย่างไร กลับเลือกใช้วิธีการลงโทษด้วยข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ปรับ 3 แสนบาท ว่ากันว่าระยะหลังๆ นี้ สำนักงาน คปภ.เล่นไม้แข็งทุกเม็ด จนนินทากันว่า รางวัลอันดับหนึ่งของวงการ ประกันภัย ซึ่งจัดโดยสำนักงาน คปภ. “รางวัลบริษัทประกันภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น” ในปีนี้จะไม่มีบริษัท ประกันภัย ใดได้รับแม้แต่บริษัทเดียว เพราะถูกปรับกันถ้วนหน้า

อุปมาทีเล่นทีจริงได้ว่า ถ้าสำนักงาน คปภ.ยังขืนกลัดกระดุมเม็ดต่อไป และต่อไปจนถึงเม็ดสุดท้าย ก็คงจะไม่เหลือบริษัท ประกันภัย รายไหนมาส่งเงินสมทบเพื่อนำเป็นนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. เมื่อไม่มีสำนักงาน คปภ. ก็ไม่มีใครมาพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชน เฉกเช่นเดียวกับข้อเท็จจริงของวันนี้ นโยบายซื้อกล้องลดเบี้ย แทนที่จะเป็นผลประโยชน์ของประชาชน อาจกลับกลายเป็นการทำลายผลประโยชน์ของประชาชน ดังเห็นได้จากเบี้ย ประกันภัย ทุกวันนี้ สิทธิส่วนลดต่างๆ ที่ถูกกำหนดโดยกฎหมายหรือกฏการค้า (ลดอะไรก็ได้ให้เบี้ยถูกสุด) ถูกนำมาลดจนหมดสิ้นแล้ว ดังนั้นเมื่อถูกกฎหมายบังคับให้ลดเบี้ยจากการซื้อกล้องอีก จึงมีวิธีการเดียวคือ ยกเลิกส่วนลดจากกฎการค้าให้เหลือตามกฎหมายแทน บวกลบคูณหารแล้ว ผู้บริโภคจ่ายเบี้ย ประกันภัย แพงกว่าเดิม

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์