ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประกันภัยทั่วไป

ลดเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ รถติดกล้อง หวั่นสินไหมปูด

หลัง “คปภ.” ลดเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ 5-10% รถติดกล้อง CCTV หวั่น “สินไหมปูด-ขาดทุนเพิ่ม”

ลดเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ รถติดกล้อง หวั่นสินไหมปูด

มีนาคม
30

จับตา ประกันภัยรถยนต์ หลัง คปภ.ออกคำสั่งลดปี 5-10% ให้กับรถที่ติดกล้อง CCTV มีผลตั้งแต่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา หวังสร้างวินัยจราจร ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน “เลขา คปภ.” ย้ำ รถต้องติดกล้อง CCTV ตลอดสัญญา ประกันภัย “นายก ส.วินาศภัย” ยอมรับช่วยคุมพฤติกรรมผู้ขับขี่ แต่ห่วง ประกันภัยรถยนต์ เพราะตลาดแข่งดุ เหตุมีส่วนลดเบี้ยส่วนอื่น ทั้ง “ป้ายแดง-ซื้อตรง” อยู่แล้ว มาเจอกฎหมายบังคับลดเบี้ยรถติดกล้อง CCTV ซ้ำอีกดอก หวั่นสินไหมปูด ขาดทุนเพิ่ม ด้านนักกฎหมายเตือน เจ้าของรถระวังข้อกฎหมาย ย้ำตอนเกิดอุบัติเหตุต้องติดกล้อง ถ้าไม่ติดหรือกล้องใช้งานไม่ได้ ประกันภัย ถือว่าแถลงเท็จ สัญญาเป็นโมฆียะ

เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เพื่อสร้างวินัยจราจรให้แก่ประชาชน และช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน สำนักงาน คปภ.จึงได้มีคำสั่งนายทะเบียนที่ 8/2560 เรื่อง ให้ใช้อัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ สำหรับ รถยนต์ ที่ติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่ติดตั้งกับ รถยนต์ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ รถยนต์ ที่ติดตั้งกล้อง CCTV ได้รับส่วนลดจากเบี้ย ประกันภัย สำหรับการทำ รถยนต์ ภาคสมัครใจ 5-10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 3 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป

ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศไทยมีสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับสองของโลก และกรุงเทพมหานครยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีการจราจรติดขัดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เนื่องมาจากการขาดวินัยจราจร และไม่เคารพกฎหมายของผู้ขับขี่ โดยมีข้อเสนอแนะว่าระบบกล้อง CCTV ที่ติดตั้งกับรถมีส่วนสำคัญในการตรวจสอบวินัยจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนน ตลอดจนเป็นหลักฐานสำคัญในการยืนยันการกระทำความผิด นอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่กล้าฝ่าฝืนกฎจราจรแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดเหตุอาชญากรรมได้อีกทางหนึ่งด้วย

ดังนั้นสำนักงาน คปภ.จึงได้หารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคธุรกิจ ประกันภัย โดยมีข้อสรุปว่า เห็นควรใช้มาตรการด้าน ประกันภัย ช่วยจูงใจให้มีการติดกล้อง CCTV ไว้ใน รถยนต์ มากขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่ รถยนต์ มีความระมัดระวังในการขับขี่ เนื่องจากผู้ขับขี่มีแนวโน้มที่จะกังวลว่า มีกล้องที่ติดตั้งอยู่กับ รถยนต์ คันอื่นบนท้องถนนบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ ทำให้การขับขี่ รถยนต์ ทุกครั้ง ผู้ขับขี่มีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น และคาดว่าสามารถลดอุบัติเหตุบนท้องถนนลงได้ นอกจากนี้ หลักฐานการเกิดอุบัติเหตุที่ถูกบันทึกได้โดยกล้องติด รถยนต์ ยังสามารถช่วยให้บริษัท ประกันภัย จ่ายค่าสินไหมทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“ผู้ใช้ รถยนต์ ที่ติดตั้งกล้อง CCTV จะได้รับส่วนลดเบี้ย ประกันภัย สำหรับการทำ รถยนต์ ภาคสมัครใจ 5-10% ของเบี้ย ประกันภัย สุทธิ โดยผู้เอา ประกันภัย ต้องแสดงหลักฐานภาพถ่ายการติดตั้งกล้อง CCTV กับ รถยนต์ คันเอา ประกันภัย ในเวลาทําสัญญา ประกันภัย และต้องติดตั้งไว้ตลอดระยะเวลาเอา ประกันภัย ด้วย โดยคำสั่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ดังนั้นผู้เอา ประกันภัย รายใหม่หรือรายเก่าที่ทำหรือต่ออายุสัญญา ประกันภัย ตั้งแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป จะได้รับส่วนลดเบี้ย ประกันภัย นี้”

อย่างไรก็ดี เลขาธิการ คปภ.กล่าวว่า ในกรณีที่ผู้เอา ประกันภัย ติดกล้องและทำสัญญา ประกันภัย เมื่อคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้แล้ว แต่ไม่ได้รับส่วนลดเบี้ย ประกันภัย ผู้เอา ประกันภัย สามารถขอส่วนลดเบี้ย ประกันภัย กับบริษัทได้ในภายหลัง

ด้าน นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า การที่ คปภ.ออกคำสั่งดังกล่าว ส่งผลทั้งทางบวกและทางลบ ซึ่งผลทางบวกโดยตรงจะช่วยควบคุมพฤติกรรมผู้ขับขี่ รถยนต์ ทำให้มีความระมัดระวัง มีวินัยในการขับขี่มากขึ้น ขณะที่ผลดีทางอ้อม ช่วยให้ผู้ขับขี่ รถยนต์ เริ่มตระหนักถึงกฎหมายจราจรมากขึ้น และไม่กล้าทำผิดกฎจราจรอีก อาทิ กลับรถในที่ห้ามกลับ จอดรถในที่ห้ามจอด หรือเลี้ยวรถในที่ห้ามเลี้ยว เป็นต้น เพราะพฤติกรรมต่างๆ จะถูกกล้อง CCTV บันทึกภาพความผิดไว้เป็นหลักฐาน เช่นเดียวกับเวลาที่มีอุบัติเหตุทาง รถยนต์ เกิดขึ้น ผู้ที่ทำผิดกฎหมายจราจรจะไม่กล้า เพราะถูกบันทึกภาพไว้เช่นกัน ทำให้อุบัติเหตุบนท้องถนนลดลงได้

อีกทั้งยังช่วยติดตามการเกิดเหตุอาชญากรรมได้ เพราะจะมีการแชร์ภาพเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้น เช่น มีการปล้นหรือลักทรัพย์ในธนาคาร อาจจะหาภาพจาก รถยนต์ ข้างเคียงที่จอดอยู่แถวนั้น หรือถ้าไม่มี ทางตำรวจอาจจะมีการประกาศออกไปหา รถยนต์ คันที่ต้องสงสัย สีนี้ เลขทะเบียนนี้ อยู่บนเส้นทางนี้ ให้ผู้ที่พบเห็นช่วยตรวจสอบ ซึ่งมีโอกาสที่รถที่ติดตั้งกล้อง CCTV ที่วิ่งอยู่บนถนนสายนั้นอาจจะเจอรถต้องสงสัย หรือมีการชิงทรัพย์ริมถนน กล้องในบริเวณนั้นอาจจับภาพได้ในช่วงเกิดเหตุ แต่ไกลกว่านั้นจับไม่ได้ ถ้ามีการประกาศออกไป มีโอกาสจับผู้กระทำความผิดได้เช่นกัน

เกมตลาดพลิก เพราะขาดทุนเพิ่ม

สำหรับผลในทางลบนั้น นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยกล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันตลาด ประกันภัยรถยนต์ มีการแข่งขันด้านราคาเบี้ย ประกันภัย รุนแรงมาก ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้านสินไหมทดแทน ทั้งค่าซ่อม ค่าอะไหล่ ค่าสินไหมทดแทนบุคคลที่ 3 มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอด ซึ่งปัจจุบัน ประกันภัยรถยนต์ มีอัตราสินไหมทดแทน (Loss Ratio) อยู่ที่ 65% อยู่ในภาวะขาดทุนแล้ว การให้ลดเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ลงอีกในครั้งนี้ อาจจะส่งผลต่อสินไหมทดแทนขยับเพิ่มขึ้น ทำให้ผลประกอบการ ประกันภัยรถยนต์ ขาดทุนมากขึ้นได้

“เนื่องจากปัจจุบันในตลาดมีการให้ส่วนลดเบี้ย ประกันภัย อื่นๆ อยู่แล้ว ทั้งส่วนลดป้ายแดง 15% ส่วนลดจากการซื้อ ประกันภัย โดยตรง 15% โดยส่วนลด 2 ส่วนนี้จะให้หรือไม่ให้ก็ได้ กฎหมายไม่ได้บังคับ แต่ด้วยภาวะการแข่งขันในตลาด ทำให้แข่งขันกันให้ส่วนลดในส่วนนี้กันอยู่ นอกจากนี้ยังมีส่วนลดที่กฎหมายบังคับ คือ รถยนต์ที่ ติดตั้งแก๊สเอ็นจีวี ให้ส่วนลดเบี้ยอีก 10% และ รถยนต์ ที่ติดตั้งกล้อง CCTV ที่ คปภ.กำหนดให้ส่วนลดเบี้ย 5-10% โดย 2 อย่างหลังเป็นส่วนลดที่กฎหมายบังคับให้ลด ไม่ลดไม่ได้”

บริษัท ประกันภัย ต่างๆ ต้องให้บริหารจัดการ พิจารณาผลประกอบการของตัวเอง หากเพิ่มส่วนลดเบี้ย ประกันภัย ให้กับรถที่ติดตั้งกล้องเข้าไป ต้นทุนสินไหมทดแทนจะเป็นอย่างไร ถ้าขยับอาจจะต้องไปลดเบี้ย ประกันภัย ส่วนอื่นๆ ที่กฎหมายไม่ได้บังคับใหม่ เพื่อควบคุมสินไหมทดแทนไม่ให้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการบริหารของแต่ละบริษัท

นัก ก.ม.เตือน แถลงเท็จ / สัญญาโมฆียะ

อย่างไรก็ดี มีนักกฎหมายรายหนึ่งให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า ในเวลาทำ ประกันภัย ผู้ขับขี่ รถยนต์ ที่ติดตั้งกล้อง CCTV ต้องแสดงหลักฐานภาพถ่ายการติดตั้งกล้อง CCTV จึงจะได้ลดเบี้ย ประกันภัย นั้น ต้องติดตั้งกล้องไว้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันปัญหาเวลามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วปรากฏว่า รถยนต์ คันเกิดเหตุไม่ได้ติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ หรือกล้องใช้งานไม่ได้ บริษัทจะถือว่าผู้เอา ประกันภัย แถลงข้อความเป็นเท็จในตอนทำ ประกันภัย เพื่อให้ได้ส่วนลดเบี้ย ประกันภัย และบอกล้างสัญญา ประกันภัย ได้ในภายหลัง ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์นั้นๆ

“มีประเด็นในด้านข้อกฎหมาย ที่ผู้ขับขี่ รถยนต์ ในฐานะผู้เอา ประกันภัย ต้องสำนึก คือใน พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย มาตรา 865 ระบุว่า ถ้าในเวลาทำสัญญา ประกันภัย ผู้เอา ประกันภัย ไม่เปิดเผยข้อความจริง ซึ่งอาจจะจูงใจให้ผู้รับ ประกันภัย เรียกเบี้ย ประกันภัย สูงขึ้นอีก หรือบอกปัดไม่ยอมทำสัญญา หรือผู้เอา ประกันภัย รู้อยู่แล้วแถลงข้อความนั้นเป็นเท็จ สัญญานั้นเป็นโมฆียะ คือถ้าเวลาทำ ประกันภัย คุณแถลงว่ารถของคุณติดตั้งกล้อง CCTV ซึ่งจะได้ลดเบี้ย แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุปรากฏว่า รถคุณไม่ได้ติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ หรือกล้องใช้งานไม่ได้ เท่ากับคุณแถลงข้อเท็จ มีผลให้บริษัท ประกันภัย บอกล้างสัญญาได้ อยากจะเตือนให้ผู้ขับขี่ รถยนต์ ระวังในข้อนี้ให้มาก”

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์