กรรมการผู้จัดการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และเลขาธิการสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า หลังจากสภาประกันภัยรถข้ามแดนแห่งอาเซียน ได้เปิดเว็บไซต์ ASEANCOB.COM ขึ้นมา ซึ่งจะเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของเนชั่นแนลบูโรของแต่ละประเทศ นอกจากจะเพื่อให้ความรู้ด้าน ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ แล้วยังจะรองรับการซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ผ่านออนไลน์ด้วยนั้น น่าจะนำร่องได้กับ 3 ประเทศนี้ก่อน คือ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่อยู่ระหว่างพัฒนาโปรแกรมร่วมกัน เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลรองรับการซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ข้ามแดนผ่านเว็บไซต์ ASEANCOB.COM ซึ่งตามข้อตกลงจะเริ่มภายในไตรมาสแรกนี้

“ตอนนี้การซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ข้ามแดน คือซื้อที่ชายแดน แต่ต่อไปเข้าไปเว็บไซต์นี้และซื้อผ่านเว็บไซต์ได้เลยจะทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องไปถึงชายแดนก่อนถึงค่อยซื้อ ประกันภัย เหมือนที่ทำอยู่ในปัจจุบัน เรื่องการซื้อ ประกันภัย ผ่านเว็บไซต์ ประเทศไหนพร้อมก็ทำได้ แต่ละประเทศมีเงื่อนไข มีความพร้อมต่างกัน แต่ที่มาเลเซียมีคนซื้อผ่านออนไลน์เยอะทำให้ไปได้เร็วขึ้น ระบบเขาพร้อมเกือบ 100% ต่อไป รถยนต์ ที่ข้ามจากไทยไปมาเลเซียจะซื้อ ประกันภัย ออนไลน์ทางเว็บไซต์นี้ได้เลย เช่นเดียวกับ รถยนต์ จากมาเลเซียที่ข้ามเข้ามาฝั่งไทย เราตกลงกันไว้ภายในไตรมาสแรกนี้ กำลังรอข้อสรุปจากสิงคโปร์จะเริ่มพร้อมกันหรือไม่ ถ้าเริ่มพร้อมกันได้ทั้ง 3 ประเทศ รถยนต์ จากสิงคโปร์ที่จะวิ่งผ่านมาเลเซียเข้ามาไทย จะได้ซื้อทีเดียว”

สำหรับการ ประกันภัยรถยนต์ ข้ามแดนนั้น จะดำเนินการโดย “เนชั่นแนล บูโร” ของแต่ละประเทศที่จะทำหน้าที่ทั้งขาย ประกันภัย พ.ร.บ.และดูแลด้านสินไหมทดแทน โดยมาเลเซียคือ สมาคมประกันวินาศภัยมาเลเซีย ส่วนไทยคือ บริษัทกลางฯ

รถยนต์ จาก 3 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ วิ่งข้ามแดนกันมีจำนวนมาก ที่เยอะคือ ไทยและมาเลเซีย น่าจะเป็นแสนคันต่อปี ดูจาก รถยนต์ ที่ผ่านเข้ามาที่หาดใหญ่น่าจะมีจำนวนหลายหมื่นคันต่อเดือน ซึ่งตามข้อตกลง ประกันภัยรถยนต์ อาเซียนจะเริ่มจาก รถยนต์ ขนส่งสินค้าข้ามแดนก่อน ที่สามารถซื้อ ประกันภัย ออนไลน์ได้ น่าจะมีจำนวนไม่กี่ร้อยคัน ขณะที่ระบบสามารถรองรับ รถยนต์ ได้ทุกประเภท ส่วนเรื่องการเคลนสินไหมทดแทนจะเป็นหน้าที่ของเนชั่นแนล และบริษัท ประกันภัย ของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมโครงการ

“เราได้ชี้แจงบริษัทสมาชิกไปรอบหนึ่งแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทใดจะเข้าร่วมโครงการบ้าง หลังจากนี้จะถามความสมัครใจ ใครสนใจจะเข้าร่วมโครงการบ้าง ทั้ง 3 ประเทศนี้เป็นโครงการนำร่องเราจะเอาไปให้กลุ่มหลังๆ ดู ซึ่งในอนาคต รถยนต์ ในกลุ่มประเทศอาเซียนที่วิ่งข้ามประเทศไหน สามารถทำ ประกันภัยรถยนต์ ข้ามแดนได้ที่เว็บไซต์นี้ได้”

ฐามถึงยอดการทำ ประกันภัยรถยนต์ ข้ามแดนไทยกับ สปป.ลาว ที่เริ่มโครงการเป็นที่แรกมาหลายปีแล้วนั้น รถยนต์ ที่วิ่งข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศที่ทำ ประกันภัย ผ่าน เนชั่นแนล บูโร ไม่เยอะ ทั้งที่จริงๆ รถยนต์ จากไทยวิ่งข้ามไป สปป.ลาว มีเป็น 100,000 คัน แต่ไม่ได้ทำ ประกันภัย ผ่านเนชั่นแนล บูโร เป็นการทำ ประกันภัย ผ่านบริษัท ประกันภัย ทั่วไป แต่ในอนาคตถ้าซื้อผ่านเว็บไซต์ ASEANCOB.COM จะเชื่อมโยงเข้ามาเอง

“สปป.ลาว มีบริษัท เอจีแอล ที่ทำหน้าที่เป็นเนชั่นแนล บูโรของเขาเชื่อมกับไทย จึงนำร่อง 2 ประเทศนี้ก่อน ส่วนเวียดนาม กัมพูชา อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม ไม่ใช่แค่ซื้อ ประกันภัย มีซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมด้วย เพราะความคุ้มครอง ประกันภัย พ.ร.บ.อย่างเดียวไม่พอ ของเราคุ้มครองแค่ชีวิตและร่างกาย บางประเทศมีความคุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอกด้วย ต้องปรับปรุงความคุ้มครอง พ.ร.บ.ให้สอดรับกัน แต่ของเรารถจากไทยที่ขับไป สปป.ลาว จะซื้อ ประกันภัย ภาคสมัครใจขยายความคุ้มครองนอกอาณาเขตไปด้วย เป็นข้อตกลงที่สมาคมฯ ทำร่วมกับ เอจีแอล หากเกิดเคลม ขอให้ทาง สปป.ลาวช่วยดูแลเรื่องเคลมให้กับรถที่ขอขยายความคุ้มครองข้ามไป”

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์