คปภ.-เอกชน ผ่าตัด “ประกัน 100 บาท” สำเร็จ คลอด ไมโครอินชัวรันส์ ตัวใหม่ ค่าเบี้ย ประกันภัย 222 บาทต่อปี มีค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ 5,000 บาท ความคุ้มครองอื่นเหมือนประกัน 100 บาท ยึดคอนเซ็ปต์เดิม ขายเฉพาะช่วงเทศกาล ประเดิมเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ซื้อได้ 15 มี.ค.-30 เม.ย. 60

เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้สั่งการให้มีการปรับปรุงกรมธรรม์รายย่อย “กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเทศกาลสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์)” เบี้ย ประกันภัย 100 บาทเสียใหม่ โดยเพิ่มค่ารักษาพยาบาลด้วย จากเดิมที่คุ้มครองแค่ 2 กรณี คือ เสียชีวิตและทุพพลภาพ ล่าสุดได้ข้อสรุปจะออกเป็นกรมธรรม์แบบใหม่ เพิ่มความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลวงเงิน 5,000 บาทต่อปี และราคาค่าเบี้ย ประกันภัย ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย จะออกขายเร็วๆ นี้

“ราคาเบี้ย ประกันภัย จะถูกกว่าปกติที่มีค่ารักษาพยาบาล เพราะเราก็เป็น CSR เลยขอความร่วมมือ ค่ารักษาพยาบาล 5,000 บาท เราขายเฉพาะช่วงเทศกาล คุ้มครองทั้งปี ขาย 1 เดือน อาจจะเริ่มกลางมีนาคม”

ออกไมโครฯ ตัวใหม่เบี้ย 222 บาท ค่ารักษา 5 พัน/ขาย 15 มี.ค.-30 เม.ย.

ด้าน ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับผลิตภัณฑ์ ประกันภัย คปภ.กล่าวว่า กรมธรรม์ ประกันภัย อุบัติเหตุในกลุ่มแบบประกันสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์) ที่ปรับปรุงใหม่จากของเดิมแบบ ประกันภัย 100 บาทนั้น จากการหารือกับสมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย มีข้อสรุปจะมีเบี้ย ประกันภัย 222 บาทต่อปี โดยเพิ่มความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล จากอุบัติเหตุตามวงเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อปี จากเดิมไม่มีความคุ้มครองนี้

ส่วนความคุ้มครองคนอื่นๆ ยังคงเหมือนประกัน 100 บาท คือ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ (มือหรือเท้าหรือสายตา) หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ 100,000 บาท หากถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือขณะขับขี่หรือโดยสาร รถจักรยานยนต์ ให้ความคุ้มครอง 50,000 บาท และผลประโยชน์ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ กรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย 5,000 บาท (ยกเว้นการเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยภายใน 120 วันแรก นับจากกรมธรรม์มีผลบังคับ)

“การให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลด้วยนั้น นอกจากจะมาจากแนวคิดของท่านเลขาฯ แล้ว ยังตรงกับฟีตแบ็คที่เราได้รับจากประชาชนตอนที่เราไปเดินสายเปิดตัวแบบ ประกัน 100 บาท และ 200 บาททั่วประเทศ มีเสียงสะท้อนจากพวกเขามาว่า ถ้าเขาไม่เสียชีวิตจะได้อะไรไหม เลยเป็นที่มาของการพัฒนาสินค้าใหม่นี้ขึ้นมา ซึ่งในตลาดก็มีสินค้าประเภทนี้ขายอยู่ แต่ไม่มีเบี้ย ประกันภัย ต่ำแบบนี้ ถ้าเทียบกับสินค้าในท้องตลาดที่ความคุ้มครองเท่ากัน ตัวใหม่นี้จะมีเบี้ย ประกันภัย ถูกกว่าประมาณ 50-60 บาท ส่วนที่ให้ค่ารักษาพยาบาลที่ 5,000 บาท เพราะเป็นเรตมาตรฐานขั้นต่ำและเป็นช่วงเริ่มต้นทางบริษัทอยากทดลองตลาดก่อน อีกทั้งยังเป็นตัวที่ทำเพื่อลูกค้ารายย่อย ถ้าให้เยอะเบี้ยก็สูง เรื่องชื่อเลขาฯ กำลังเลือกอยู่”

แบบ ประกันภัย นี้เป็นการขายแบบสมัครใจ โดยให้บริษัท ประกันภัย ส่งคำตอบว่าใครจะเข้าร่วมโครงการนี้บ้าง ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตามกำหนดการที่หารือกับภาคเอกชน กำหนดจะเริ่มขายกรมธรรม์นี้ในวัน 25 มีนาคม-30 เมษายนนี้ โดยจะขายเฉพาะในช่วงเทศกาลเท่านั้น ไม่ได้ขายทั้งปีเหมือน ประกันภัย 200 บาท โดยประชาชนสามารถซื้อได้คนละไม่เกิน 2 กรมธรรม์เหมือน ประกันภัย 100 บาท โดยมีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี การออกแบบ ประกันภัย นี้ใหม่นี้ ทำให้ประชาชนมีทางเลือกเพิ่มขึ้น หากต้องการความคุ้มครองแค่เสียชีวิตและทุพพลภาพ ก็มีแบบ 100 ขายให้อยู่ แต่ถ้าอยากได้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลก็จะมีตัวใหม่ให้เลือกเพิ่มขึ้น

บริษัทยอมรับเบี้ยไม่คุ้มแต่เพื่อ ปชช. ชี้ถ้าคนซื้อเยอะ หวั่นคุณภาพบริการ

ในมุมของภาคธุรกิจ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ให้ความเห็นว่า เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ทำให้เข้าถึงระบบ ประกันภัย ได้มากขึ้น เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสังคมและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้จัก ประกันภัย มากขึ้น ถือเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลสงกรานต์

“เบี้ยร์ 222 บาท ถ้าเทียบกับต้นทุนก็ไม่พออยู่แล้ว ต้นทุนไม่ได้แค่สินไหมทดแทนอย่างเดียว มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้วย รวมต้นทุนแล้วเบี้ย ประกันภัย อย่างต่ำ 400-500 บาทถึงจะอยู่ได้ แต่อย่างที่บอกโครงการนี้เพื่อสังคม คนได้ประโยชน์คือประชาชน คนที่มีรายได้น้อย อีกอย่างขายแค่เดือนครึ่ง ไม่ได้ขายทั้งปี ที่เราห่วงคือเรื่องการบริการหลังการขายมากกว่า ปริมาณคนทำ ประกันภัย มีแค่ไหน ถ้าเยอะกลัวคุณภาพบริการจะไม่ดี”

เช่นเดียวกับความเห็นของ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า เนื่องจากเป็นสินค้าเพื่อ CSR ค่าเบี้ย ประกันภัย จึงไม่สูงมาก เป็นผลดีต่อผู้บริโภคที่จะสามารถซื้อ ประกันภัย ได้ในราคาที่ถูก แต่ได้ความคุ้มครองสูง นับว่าคุ้มค่ามาก

ด้านแหล่งข่าวจาก สมาคมประกันชีวิตไทย ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เทียบค่าเบี้ย ประกันภัย 222 บาทต่อปีกับความคุ้มครองที่ให้ ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับผู้ซื้อ และหากจะหาซื้อความคุ้มครองในระดับนี้กับแบบ ประกันภัย ปกติ เบี้ยก็จะสูงกว่านี้เช่นกัน ซึ่งค่าเบี้ยที่สมาคมฯ คิดออกมาก็สูงกว่านี้

“หากเทียบง่ายๆ เหมือนเราซื้อ ประกันภัย 100 บาท และเพิ่มเบี้ยอีก 122 บาท ได้ค่ารักษาพยาบาล 5,000 บาทต่อปี ถือว่าคุ้มมาก เพราะกรมธรรม์ทั่วไปในตลาดคงหาซื้อไม่ได้ ถือว่าพิเศษจริงๆ ต่อผู้บริโภค เราคงบอกไม่ได้ว่าคนขายจะขาดทุน-ไม่ขาดทุน เพราะเป็นภาคสมัครใจ บริษัทใดสนใจขายก็ขาย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทที่ขาย ประกัน 100 บาท และประกัน 200 บาท เขาก็มีวิธีบริหารจัดการการขายและพอร์ตการรับ ประกันภัย ของเขาก็ยังทำได้ ขาย ประกันภภัย ทั้ง 2 แบบนั้นได้ ดังนั้นเชื่อว่า ประกันภัย ตัวใหม่นี้ บริษัทที่จะขายต่างก็ต้องมีวิธีบริหารจัดการเตรียมไว้อยู่แล้ว”

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์