นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ กำลังรอคำตอบจากรัฐบาลว่า โครงการ ประกันภัย ของรัฐบาล 3 โครงการ จะดำเนินการทำ ประกันภัย หรือไม่ ได้แก่ 1.โครงการ ประกันภัย สำหรับผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ( ประกันภัย ผู้มีรายได้น้อย) จำนวน 8 ล้านคน หรือ ประกันภัย คนจน 2.โครงการ ประกันภัย นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และ3.โครงการ ประกันภัย ข้าราชการ ที่รัฐบาลจะให้บริษัท ประกันภัย เข้าไปดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังเงียบอยู่

โดยเฉพาะโครงการ ประกันภัย นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งสมาคมฯ นำเสนอโมเดลความคุ้มครองไปที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่ต้นปี 2559 กำหนดอัตราเบี้ย ประกันภัย เหมารวม 180 ล้านบาท โดยรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเบี้ย ประกันภัย ซึ่งจะคุ้มครองชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย (ไม่จำกัดจำนวน) โดยกระทรวงสนใจที่จะทำ ประกันภัย พร้อมกับติดต่อมาที่สมาคมฯ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา แจ้งว่าจะเริ่มทำ ประกันภัย ภายในเดือนมกราคม 2560 เท่ากับระยะเวลาที่คุ้มครองจะเหลือเพียง 9 เดือน คือ มกราคม-ตุลาคม ปี 2560 ไม่ได้เต็มปีงบประมาณ 2560 ที่ต้องเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งหากคุ้มครอง 9 เดือน เบี้ย ประกันภัย จะอยู่ที่ 135 ล้านบาท หรือ 15 ล้านบาทต่อเดือน ก่อนที่จะเงียบหายไปอีก

สำหรับโครงการ ประกันภัย นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินี้ จะคุ้มครองภัยจากการจลาจลการก่อการร้าย, ภัยธรรมชาติ, ภัยถูกทำร้ายร่างกาย, ถูกข่มขืน, อุบัติเหตุ, การหยุดชะงักของการเดินทาง, การตกทุกข์ได้ยาก เนื่องจากถูกประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน และอาชญากรรม หรือภัยอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่งหากเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรืออันตรายสาหัส ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการปลงศพนอกประเทศ หรือค่าใช้จ่ายในการส่งศพ จำนวนเงินความคุ้มครอง (ทุนเอา ประกันภัย ) ไม่เกิน 1 ล้านบาท/คน

ค่ารักษาพยาบาลทางการแพทย์ รวมถึงค่าเคลื่อนย้ายภายในประเทศเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท/คน, ความสูญเสีย หรือความเสียหายจากการหยุดชะงักของการเดินทาง ไม่เกิน 2,000 บาท/คน/หรือไม่เกิน 20,000 บาท/คน/วัน, ค่าใช้จ่ายในการส่งศพ หรือกระดูกกลับภูมิลำเนา ไม่เกิน 1 ล้านบาท/คน, การฟื้นฟูสภาพจิตใจจากการจราจล การก่อการร้าย ภัยธรรมชาติ และถูกข่มขืน ไม่เกิน 20,000 บาท/คน, การสูญเสีย หรือเสียหายจากการถูกประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน ทำให้ขาดปัจจัยในการดำรงชีวิต เหมาจ่าย 6,000 บาท/คน ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี

ส่วนโครงการ ประกันภัย ผู้มีรายได้น้อย ที่เงียบหายไปเช่นกัน หลังจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสมาคมจัดทำอัตราเบี้ย ประกันภัย และความคุ้มครองเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว โดยกระทรวงการคลังตั้งแท่นนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เพื่ออนุมัติโครงการพร้อมกับงบประมาณ 800 ล้านบาท หรือหัวละ 99 บาท ที่รัฐบาลจะต้องจัดสรรมาจ่ายเบี้ย ประกันภัย ให้กับผู้มีรายได้น้อยทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนไว้ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีการผลักดันเข้าสู่ ครม.

โดยโครงการนี้เป็นการ ประกันภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) คุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรืออุบัติเหตุขณะขับขี่ หรือโดยสาร รถจักรยานยนต์ บริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ หรือผู้เอา ประกันภัย เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท หากเป็นกรณีถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกายและ/หรืออุบัติเหตุ ขณะขับขี่หรือโดยสาร รถจักรยานยนต์ จ่ายชดเชย 50,000 บาท ชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากอุบัติเหตุวันละ 300 บาท สูงสุด 20 วัน ตลอดระยะเวลา ประกันภัย

สำหรับโครงการ ประกันภัย ข้าราชการ ที่จะให้บริษัท ประกันภัย เข้าไปดูแลค่ารักษาพยาบาลนั้น นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยกล่าวว่า สมาคมฯ เพิ่งส่งหนังสือสอบถามความชัดเจนไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และปลัดกระทรวงการคลัง โดยขอให้ให้คำตอบภายในไม่เกินเดือนมีนาคมนี้ เพื่อจะได้ทันปีงบประมาณ 2561 ที่จะเริ่มเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งในเบื้องต้นมีบริษัท ประกันภัย แจ้งความจำนงเข้าร่วมรับ ประกันภัย โครงการนี้มาแล้ว 20 กว่าบริษัท

อนึ่ง สาเหตุที่การทำ ประกันภัย โครงการต่างๆ ของภาครัฐ ดูเหมือนจะเงียบหายไป อาจจะเนื่องมาจากเงินคงคลังที่ลดฮวบลงไปมากจาก 495,747 ล้านบาท เมื่อเดือนกันยายนปี 2557 เหลือเพียง 74,907 ล้านบาท ในเดือนธันวาคมปี 2559 หรือลดลงไปถึง 420,840 ล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบมาถึงการใช้จ่ายของภาครัฐ ต้องรัดเข็มขัดมากขึ้นก็เป็นได้

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์