ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประกันภัยทั่วไป

ธุรกิจ ประกันวินาศภัย ในยุค ฟินเทค

ฟินเทคจัดว่าเป็นเรื่องที่อยู่ใน กระแสความสนใจ มีการพัฒนาการบริการทางด้านการ ประกันวินาศภัย เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน

ธุรกิจ ประกันวินาศภัย ในยุค ฟินเทค

มกราคม
31

ASA (Associate of Society of Acturies) สำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย จัดทำรายงานหัวข้อ “ธุรกิจประกันวินาศภัยในยุค FinTech“ ว่า Financial Technology หรือ “FinTech” คือการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศในกลุ่ม SMAC ซึ่งประกอบไปด้วย Social, Mobility, Analytics และ Cloud มาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการทางด้านการเงิน ให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ในยุคที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือกันอย่างกว้างขวาง (หรือที่เรียกกันว่าในยุค Internet of Things)

โดยฟินเทคเข้ามามีอิทธิพลในการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยการสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เช่น ไม่ต้องเดินทางไปที่สาขาของธนาคารเพื่อโอนเงิน หรือชำระค่าสินค้าและบริการ แต่สามารถหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กๆ ในมือ ขึ้นมาโอนเงินหรือจ่ายค่าสินค้าได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ย่อมทำให้ธุรกิจธนาคารจำเป็นต้องปรับแผนการดำเนินงาน เนื่องจากในอนาคตอาจจะไม่จำเป็นต้องมีสาขาของธนาคารก็เป็นได้

เนื่องจากฟินเทคสามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า FinTech มีการเติบโตของธุรกิจเป็นอย่างมาก มูลค่าการลงทุนในฟินเทคทั่วโลกในปี 2015 คิดเป็นประมาณ 7.8 แสนล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นประมาณ 75% จากปี 2014 และเติบโตเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค สำหรับประเทศไทย มูลค่าการลงทุนในวงการ Tech Startup ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ปี 2016 มีมูลค่าสูงถึง 3,800 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นประมาณ 35 เท่า จากปี 2012 และมีกลุ่ม Startups ในการทำฟินเทคทั้งหมด 71 รายการ ในขณะที่ปี 2012 มีจำนวน Startups เพียง 3 รายเท่านั้น

สำหรับการประกันวินาศภัย ฟินเทคจัดว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในกระแสความสนใจ โดยจะเห็นได้ว่า มีการพัฒนาการบริการทางด้านการ ประกันวินาศภัย เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น แอพพลิเคชั่นที่ช่วยในการคนขับรถ สามารถทำเคลม ประกันภัย ได้ด้วยตนเองแบบรวดเร็วทันใจ โดยไม่ต้องรอผู้สำรวจภัยจากบริษัท ประกันภัย ซึ่งนอกจากแอพลิเคชั่นซึ่งให้บริการในด้านเคลมแล้ว ยังมีเว็บไซต์ที่ให้บริการเปรียบเทียบราคาของผลิตภัณฑ์ ประกันภัย ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ ประกันภัย ที่มีราคาเหมาะสมกับงบประมาณของตัวเองได้อย่างง่ายดาย

ในส่วนของบริษัทประกันวินาศภัย ก็มีการใช้ฟินเทคเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ ประกันภัย รูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเช่นกัน เช่น การ ประกันภัย แบบขับเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น (Pay as you drive) หรือ Telematics ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลระยะไกลมาใช้กับการขับขี่ รถยนต์ โดยที่ข้อมูลการขับขี่ รถยนต์ ในชีวิตประจําวันจะถูกส่งไปยังบริษัท ประกันภัย เพื่อใช้ในการคำนวณเบี้ย ประกันภัย ที่ผู้ขับขี่ต้องจ่ายให้กับบริษัท ประกันภัย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ ประกันภัย รูปแบบใหม่ที่ใช้แอพพลิเคชั่นในการเปิดหรือปิดความคุ้มครองได้อีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเสียค่าใช้จ่ายตามจริง เนื่องจากจะจ่ายค่าเบี้ย ประกันภัย ก็ต่อเมื่อเปิดความคุ้มครองเท่านั้น และในอนาคตอันใกล้อาจได้เห็นผลิตภัณฑ์ ประกันสุขภาพ ที่คิดเบี้ย ประกันภัย ตามข้อมูลที่ได้จากเครื่องตรวจจับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน (หรือ Fitness Tracker) ก็เป็นได้

จะเห็นได้ว่า ฟินเทคส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการ ประกันภัย ในหลากหลายด้าน ทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการกำหนดราคา ช่องทางการจำหน่าย การบริการด้านกรมธรรม์ และการบริหารจัดการสินไหมทดแทน ซึ่งสามารถสรุปผลกระทบของฟินเทคต่ออุตสาหกรรมการ ประกันภัย ได้ ดังนี้ ด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการกำหนดราคา มีผลิตภัณฑ์ ประกันภัย ประเภทใหม่เกิดขึ้น เบี้ย ประกันภัย เหมาะสมกับความเสี่ยงภัยของผู้เอา ประกันภัย ลดความเสี่ยงภัยที่เกิดจากความไม่ซื่อตรงของผู้เอา ประกันภัย

ด้านการจัดจำหน่าย เกิดช่องทางการจำหน่ายรูปแบบใหม่ มีการแข่งขันสูงขึ้นเนื่องจากผู้เอา ประกันภัย สามารถเปรียบเทียบราคา และความคุ้มครองได้ง่ายขึ้น ด้านการบริการด้านกรมธรรม์ สร้างความสะดวกรวดเร็ว และลดข้อผิดพลาดในการผลิตกรมธรรม์ บริษัท ประกันภัย สามารถสื่อสารกับผู้เอา ประกันภัย ได้อย่างรวดเร็ว ด้านการบริหารจัดการด้านสินไหมทดแทน สร้างความสะดวก รวดเร็ว ในการสำรวจภัย และจ่ายค่าสินไหมทดแทน ลดความเสี่ยงภัยจากการเคลมทุจริต โดยการใช้เทคโนโลยี (รูปถ่าย, วิดีโอ)

จะเห็นได้ว่า ฟินเทค เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค ลดต้นทุนจากการดำเนินงานให้กับบริษัท ประกันภัย และยังสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจให้กับ Startup หน้าใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย แต่ก็ยังคงมีอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการประยุกต์ใช้ FinTech ในการดำเนินธุรกิจเช่นกัน

อย่างไรก็ดี การเข้ามาของ FinTech ย่อมมีผลกระทบต่อธุรกิจ ประกันภัย และปัจจัยเหล่านี้ย่อมเป็นแรงกดดันให้บริษัท ประกันภัย ต้องมีการปรับตัว ดังนั้นบริษัท ประกันภัย ควรมีการปรับปรุงแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อใช้ประโยชน์จาก ฟินเทค ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการหาพันธมิตร หรือดำเนินการเอง

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์