ตลาด ประกันภัย ความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน หรือ ไอเออาร์ (Industrial All Risk) เป็นอีกตลาดที่มีการแข่งขันด้านราคาเบี้ย ประกันภัย รุนแรง ไม่แพ้ ประกันภัยรถยนต์ โดยเชื่อว่าในปี 2560 นี้ ราคาเบี้ย ประกันภัย ยังคงลดลงต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ในปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นในตลาดไอเออาร์ โดยประธานคณะกรรมการ ประกันภัย ทรัพย์สิน สมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวคือการเปิดเสรีเบี้ย ประกันภัย ไอเออาร์ ซึ่งตามโรดแม็ปของ คปภ.ในปี 2560 นี้ จะเริ่มเปิดเสรีบางส่วนก่อน แต่การเปิดเสรีต้องเตรียมความพร้อมให้กับสมาชิกก่อน ดังนั้นทางสมาคมฯ ได้ขอเวลา คปภ.ประมาณ 6 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ให้กับสมาชิก อาทิ การให้ความรู้เรื่องการประกอบธุรกิจ หนึ่งธุรกิจต้องประกอบด้วยอะไร มีหลักการคิดอย่างไรเป็นต้น

“ทุกวันนี้ สมาชิกทำราคาแบบคนนี้ บอกเท่านี้ อีกคนทำต่ำกว่า แข่งกันโดยไม่มีข้อมูลอ้างอิง ไม่มีหลักการ เราบอกว่าถ้าจะเปิดเสรีต้องเตรียมให้สมาชิกมีความพร้อม ว่าจริงๆ แล้วการคิดเรตแต่ละภัย ต้องดูจากสถิติ มีบวกค่าใช้จ่าย บวกผลกำไร ถึงจะออกมาเป็นเรตที่ถูกต้อง เลยคุยกับ คปภ.ขอสัก 6 เดือน เราให้สำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย (ไอพีอาร์บี) ทำข้อมูลตัวเลขของการ ประกันภัย ไอเออาร์อยู่ เขาได้ตัวเลขออกมาระดับหนึ่ง แต่ก็แย่ตรงสถิติ เมื่อก่อนบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ (ไทยรี) เก็บอยู่ แต่หลังน้ำท่วมปี 2554 เก็บสถิติไม่ค่อยได้ เวลาทำดาต้าต้องย้อนกลับไปที่ตัวเลขในช่วงก่อนน้ำท่วม ถามว่าตรงมั้ย ไม่ 100% แต่ทางนักคณิตศาสตร์จะเผื่อค่าเงินเฟ้อ และแฟคเตอร์อื่นๆ ด้วย”

ยอมรับว่า การเปิดเสรีเบี้ย ประกันภัย ไอเออาร์ เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากที่สุดในปีนี้ เพราะถึงเวลาที่ต้องเปิด ส่วนประกันอัคคีภัย เบี้ย ประกันภัย ยังเป็นพิกัดอัตรา (ทาริฟ) อยู่ แต่อาจจะต้องปรับอัตรา กำลังหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพราะสุดท้าย ผู้บริโภคต้องการให้เปิดเสรี เนื่องจากส่งผลดีกับพวกเขา

แข่งดุ ดัมพ์เบี้ยต่ำติดดิน จ่อแถมฟรี คาดครึ่งหลังเริ่มปล่อยเสรี

ถามว่าการเปิดเสรี หมายถึงการปล่อยฟรีทุกอัตราของไอเออาร์เลยหรือไม่ อาจจะเป็นแค่แคปก่อน ถ้าทุน ประกันภัย น้อยๆ อาจจะแคปไว้ในระดับหนึ่ง เช่น ทุน ประกันภัย 50 ล้านบาท อาจจะให้ใช้เป็นพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัย ขั้นต่ำก่อน แล้วถ้าเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป อาจจะปล่อยฟรีเลย ซึ่งแนวทางนี้อาจจะเป็นระยะแรก พอถึงจุดสุดท้ายต้องเปิดเสรีหมดเช่นกัน แต่อาจจะเป็นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งในปีนี้หาก คปภ.อนุมัติในครั้งสุดท้าย แล้วน่าจะประกาศใช้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดย คปภ.อาจจะประกาศก่อน แต่ให้เตรียมตัวอย่างที่สมาคมฯ ขอไว้

“ถ้าเปิดเสรีเบี้ยไอเออาร์ จะเอฟเฟ็กต์ต่อตลาด หรือต่อสมาชิกอย่างไรบ้าง จริงๆ ทุกวันนี้ก็ลดราคากันอยู่แล้ว ตกต่ำถึงที่สุดแล้ว กะว่าถ้าเปิดเสรีแล้ว ให้ความรู้กับสมาชิกอาจจะดีขึ้น ไม่ซี้ซั๊วแข่ง พอมีหลักการคนตระหนักขึ้นมานิด ต้องมีกำไรบ้าง ทุกวันนี้เหมือนกับธุรกิจแข่งกันจนไร้เหตุผล”

ถามถึงแนวโน้มการแข่งขันด้านเบี้ย ประกันภัย ไอเออาร์ ในปีนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่อาจจะไม่เลวลงมาก ซึ่งปัจจุบันอัตราเบี้ย ประกันภัย ใกล้ถึงจุดต่ำสุด เกือบจะแถมฟรีอยู่แล้ว กล่าวคือคิดเบี้ย ประกันภัย โรงงานเท่ากับโรงแรม ทั้งที่ความเสี่ยงต่างกันเยอะมาก ด้วยอัตราเบี้ย ประกันภัย ที่แข่งขันกัน ขายอยู่ต่ำมาก การที่เบี้ย ประกันภัย จะกระโดดเพิ่มขึ้นไปคงยาก ยกเว้นจะเกิดภัยใหญ่ๆ ขึ้นมา อีกทั้ง ประกันภัย ทรัพย์สินในประเทศไทยพึ่งบริษัทประกันภัยต่อ (รีอินชัวเรอส์) ในต่างประเทศ ตราบใดที่รีอินชัวเรอส์ยังซัพพอร์ต บริษัท ประกันภัย ก็ยังแข่งกันอยู่

“หลังจากน้ำท่วมมาถึงปัจจุบัน รีอินชัวเรอส์ยังซัพพอร์ตมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะขีดความสามารถในการรับ ประกันภัย หรือคาปาซิตี้ในตลาดโลกโอเวอร์ คนนี้ถอนคนใหม่เข้ามา ยังมีคาปาซิตี้ล้นหลามอยู่ มีรีอินชัวเรอส์ใหม่ๆ เข้ามาตลอด อย่างที่สิงคโปร์ก็มีแคปปิตอลของรีอินชัวเรอส์เยอะไปหมด ตราบใดที่คนมีคนรับ ยังทำต่อไป ทางสมาคมฯ ก็ส่งสัญญาณเตือนมาตลอด พอมาถึงบริษัทเขาก็อาจจะอยากได้เบี้ย ถ้าเบี้ยต่ำไป ต้องถามต้นทุนคุ้มไหม ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้จ่ายในฐานะบริษัทหนึ่ง ถามว่ามีมาร์จิ้นไหม อยู่ที่แต่ละบริษัท บางบริษัทอาจจะทำได้ด้วยอัตราที่ต่ำกว่า เพราะมีความแข็งแรงกว่า อีกหน่อยเข้าสู่ยุคเสรีจริงๆ บริษัทเล็กก็ลำบาก”

นายกฯ ย้ำชง คปภ.ปรับเบี้ยไอเออาร์ หั่นทุนเหลือ 50 ล้าน เอื้อลูกค้าจ่ายถูก

ด้าน นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า เป็นการปรับปรุงพิกัดเบี้ย ประกันภัย ไอเออาร์ให้คล่องตัวมากขึ้น โดยไม่ต้องอิงพิกัดอัตราเบี้ย ประกันอัคคีภัย เหมือนแต่ก่อน ซึ่งของเดิมกำหนด ประกันภัย ทรัพย์สินที่จะใช้เบี้ย ประกันภัย ไอเออาร์ได้ ต้องมีทุน ประกันภัย ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทขึ้นไป หากต่ำกว่านั้นต้องใช้เบี้ย ประกันภัย ขั้นต่ำ 105% ของอัตราเบี้ย ประกันอัคคีภัย สมมุติเบี้ยอัคคีภัย 100 บาท ทำ ประกันภัย ไอเออาร์ต้องจ่ายเบี้ย ประกันภัย 105 บาท แต่เกณฑ์ใหม่ที่สมาคมฯ เสนอเข้าไปที่ คปภ.ได้ขอปรับลดทุน ประกันภัย ลงมาจากไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท เหลือไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท สามารถใช้เบี้ย ประกันภัย ไอเออาร์ได้ และถ้าทุน ประกันภัย เกิน 50 ล้านบาท ไม่ได้กำหนดเบี้ย ประกันภัย ขั้นต่ำ ปล่อยให้แข่งขันกันอย่างเสรี

“การลดทุน ประกันภัย จาก 300 ล้านบาท ลงมาเหลือ 50 ล้านบาท เป็นประโยชน์กับประชาชนกับธุรกิจไซส์เล็กอย่างเอสเอ็มอี จ่ายเบี้ย ประกันภัย ถูกลงและได้ความคุ้มครองเพิ่มขึ้น เป็นการช่วยรายย่อย รอ คปภ.อนุมัติอยู่ ตัวกรมธรรม์ก็เหมือนเดิม แก้ไขแต่เบี้ย ประกันภัย ที่ออกจะออกเป็นประกาศนายทะเบียน”

กล่าวถึง ประกันภัย ไอเออาร์ว่า ปัจจุบัน บริษัท ประกันภัย แข่งขันด้านราคาเบี้ย ประกันภัย รุนแรง กระทั่งลงมาอยู่ในจุดที่ต่ำมาก อาทิ คอนโดมิเนียม อัตราเบี้ย ประกันภัย ขายกันอยู่ที่ 0.02% เมื่อเทียบกับในช่วงก่อนอยู่ที่ 0.07-0.08% ค่อยๆ ลดลงมาเหลือ 0.05% 0.04% และ 0.02% โดยทุน ประกันภัย 1 ล้านบาท คิดเบี้ย ประกันภัย 0.02% เท่ากับจ่ายเบี้ย ประกันภัย แค่ 200 บาทเท่านั้น

สำหรับช่วง 9 เดือนแรกปี 2559 ธุรกิจประกันวินาศภัยมีเบี้ย ประกันภัย ไอเออาร์ 16,403 ล้านบาท ลดลง 1.84%

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์