สมาคมประกันวินาศภัยไทย ชี้แจงสาเหตุบริษัท ประกันภัย จ่ายค่าสินไหมแค่ 6 แสนบาท เป็นการเฉลี่ยความเสียหาย ตามสัดส่วนของวงเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
สมาคมประกันวินาศภัย รายงานว่า จากกรณีพนักงานขับรถส่งวัสดุก่อสร้างของ ที่ได้ก่อเหตุขับ รถบรรทุก หกล้อชน รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ มาตั้งแต่ท้องที่ สน.พญาไท สน.มักกะสัน และ สน.ทองหล่อ ระยะทางทั้งสิ้นกว่า 5 กิโลเมตร มีรถที่ได้รับความเสียหายรวม 42 คัน แบ่งเป็น รถยนต์ 34 คัน และรถจักรยานยนต์ 8 คัน ก่อนถูกจับกุมได้ที่ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เอกมัย
ปรากฏว่า รถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าว ได้ซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย โดยมีวงเงินความคุ้มครอง ความรับผิดต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก จำนวน 6 แสนบาท และมีการซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.ที่คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย ของผู้ประสบภัย ซึ่งบริษัท ประกันภัย ดังกล่าวก็พร้อมจ่ายสินไหมทดแทน ตามความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ประกันภัย โดยจะชดใช้ความเสียหายแก่รถที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด ในลักษณะของการเฉลี่ยความเสียหาย ตามสัดส่วน ภายใต้วงเงิน 6 แสนบาท ส่วนที่เกินจากนั้น ทางผู้เสียหายต้องเรียกร้องจากผู้ประกอบการ รถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าวเอง
เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เรียกได้ว่า เป็นภัยที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในใจกลางเมือง กรุงเทพมหานคร ที่มีการจราจรคับคั่งเช่นนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นเรียกว่าเป็น “วินาศสันตะโร” มี รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนสูงถึง 42 คัน รวมความเสียหายแล้วกว่า 2.5 ล้านบาท
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างตั้งคำถามว่า เจ้าของรถที่ได้รับความเสียหายนั้น มี ประกันภัย หรือไม่ ในส่วนของ รถบรรทุก 6 ล้อที่กระทำความผิดนั้นมี ประกันภัย คือ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ ประเภท 3 โดยมีวงเงินความคุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก จำนวน 6 แสนบาท แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ได้เกินวงเงินความคุ้มครองที่บริษัท ประกันภัย รับ ประกันภัย ไว้
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ต้องย้อนกลับไปที่ผู้ประกอบการ หรือเจ้าของ รถบรรทุก 6 ล้อคันนั้น ว่าได้บริหารความเสี่ยง ในการเลือกซื้อ ประกันภัย ตามความเหมาะสมของธุรกิจของตนเองไว้อย่างไร เพราะอย่าลืมว่าการซื้อกรมธรรม์ ประกันภัย ไม่ใช่ซื้อเพียงเศษกระดาษ หากแต่ต้องซื้อความคุ้มครอง เมื่อเวลาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทำให้สามารถรองรับความเสียหายที่ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบได้
สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ความเสี่ยงของคุณมีมากน้อยแค่ไหน คุณเท่านั้นที่จะรู้ และเป็นผู้บริหารจัดการความเสี่ยงของตัวคุณเอง หากไม่มีการ ประกันภัย การเลือกซื้อ ประกันภัย ที่ครอบคลุมความเสี่ยง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ หรือเจ้าของรถ
การ ประกันภัย เป็นเครื่องมือหนึ่งในการบริหารความเสี่ยง ที่ช่วยบรรเทาความเสียหาย ยามเมื่อเกิดภัย หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น หากซื้อ ประกันภัย ที่ไม่เหมาะสมกับความเสี่ยงของตัวคุณเอง คุณต้องเป็นผู้ที่รับความเสี่ยงนั้นไว้เอง
ที่มา : โพสต์ทูเดย์