ช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ หลายคนอาจถือเป็นเวลาแห่งการพักผ่อนบนที่นอนนุ่มสบาย แต่สำนักงาน ททท.ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ คนกลุ่มหนึ่งในนาม “ชมรมอดีตพนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ได้นัดหมายรวมตัว เพื่อกิจกรรมคาราวานท่องเที่ยวตามรอยพระบาท ไปยังหัวหินและวังไกลกังวล อันเป็นที่ประทับของในหลวง
ขบวนคาราวานเริ่มออกเดินทางราวแปดโมงเช้า หลังประธานกล่าวเปิดอย่างเรียบง่ายเป็นกันเอง เส้นทางที่ใช้นั้นผ่าน จ.สมุทรสงคราม เลี้ยวซ้ายแยกไปทางคลองโคน แหล่งทำกะปิอันเลื่องชื่อ ตรงต่อไปยัง จ.เพชรบุรี ในเขตบางตะบูน บ้านแหลม จนถึงปลายทางที่ชะอำ เส้นทางนี้นับเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสายใหม่ ที่นักท่องเที่ยวนิยมขับรถชมวิว เพราะมีจุดให้จอดรถลงไปถ่ายภาพแทบตลอดเส้นทางก็ว่าได้
จุดแรกที่แวะ คือ สวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นเลี่ยงเมืองชะอำ ปราณบุรี ที่แห่งนี้ร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้ที่ถูกคัดสรร และวิจัยแล้วว่ามีประโยชน์ในทางการแพทย์และโภชนาการ วิทยากรท่านหนึ่งที่ผ่านการอบรมด้านแพทย์แผนไทย จนเชี่ยวชาญในการตรวจและแก้ปัญหาสุขภาพ ด้วยวิธีที่สามารถทำได้เอง ไม่ต้องพึ่งยาหรือโรงพยาบาลมากเกินไป ท่านได้เล่าถึงความเป็นมาและแนวคิดต่างๆ ที่ได้เรียนรู้จากพระองค์ท่านในห้องประชุมเปิดโล่ง ท่ามกลางธรรมชาติ มีลมเย็นโชยมาชื่นใจ ก่อนจะนำคณะทั้งหมดเดินทางไปยังลานที่จัดเตรียมมื้อเที่ยงวันสุดพิเศษ ที่มีข้าวห่อใบบัว ภายในบรรจุน้ำพริกมะขาม ปลาทูทอด ไข่ต้ม และผักสด นั่งกินกันใต้ต้นไม้อย่างมีความสุขเหลือเกิน
ช่วงบ่าย ออกเดินทางต่อไปยัง โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ประวัติที่มาของโครงการนี้ เริ่มตอนที่พระองค์ท่านประทับอยู่ ณ วังไกลกังวล แล้วมีชาวบ้านนำมันเทศมาถวาย ช่วงนั้นพระองค์ต้องเสด็จกลับกรุงเทพฯ เลยรับสั่งให้เจ้าหน้าที่นำหัวมันเทศนั้นไปวางไว้บนตาชั่ง ในห้องทรงงาน จากนั้นก็เสด็จกลับกรุงเทพฯ เวลาล่วงเป็นเดือน เมื่อเสด็จกลับมาหัวหิน ทรงพบว่าหัวมันเทศนั้นได้แตกใบ เลยตัดว่า “มันอยู่ที่ไหนก็ขึ้น” ดังนั้น จึงมีพระราชดำริให้จัดหาที่ดิน เพื่อทำโครงการด้านการเกษตร ปี พ.ศ.2551 ผู้คนมากมายจากทุกสารทิศ เดินทางมารำลึกถึงสิ่งที่พระองค์ทรงริเริ่มไว้ในพื้นที่แห่งนี้ และรายการสุดท้ายของวันแรกก็จบลงที่ตลาดชิค้าด้า หรือตลาดจั๊กจั่น ตามที่ชาวบ้านเรียกขาน
ที่มา : สยามธุรกิจ