ถก "ประกันภัยรายย่อย" หรือ ไมโครอินชัวรันส์ (Micro Insurance) บนเวทีโลก ปมปัญหาเปลี่ยน จากเรื่องส่งเสริมการขาย ขยับเป็นประเด็นใหม่ ว่าด้วยการรับ ประกันภัย และปัญหาด้านเทคนิค เพื่อเป้าหมายเจาะกลุ่มแมส

เว็บไซต์ เอเชีย อินชัวรันส์ รีวิว รายงานถึงการประชุม ไมโครอินชัวรันส์ ครั้งที่ 12 หัวข้อ “การขับเคลื่อนการเติบโต และพัฒนาอย่างยั่งยืน สำหรับไมโครอินชัวรันส์” ที่จัดขึ้นโดย สมาคมประกันภัย ประเทศศรีลังกา ร่วมกับมูลนิธิ มิวนิค รี และเครือข่าย ไมโครอินชัวรันส์ ที่ตั้งอยู่ใน ลักเซมเบิร์ก โดยมีผู้แทนประมาณ 400 คน จาก 50 ประเทศเข้าร่วมงาน

ประธานมูลนิธิ มิวนิค รี กล่าวว่า ปัจจุบันมีประชาชนมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก ที่มี ประกันไมโครอินชัวรันส์ ขณะที่ กลุ่ม "จี20" ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านคน ไปในปี 2563 จึงได้มีการอัดฉีดมาตรการเร่งด่วนบางอย่าง ที่ออกแบบและใช้รูปแบบการปฏิบัติการเพื่อเพิ่มยอดผู้ทำ ประกันภัยไมโครอินชัวรันส์ ทั่วโลกให้ถึงเป้าหมาย โดยเฉพาะการให้เข้าถึงประชาชนจำนวนมาก หรือกลุ่มแมส ที่ยังไม่มี ประกันภัย เพื่อลดผลกระทบความเสียหาย เนื่องจากเหตุการณ์ภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

“ผลิตภัณฑ์ไมโครอินชัวรันส์ ถ้าออกแบบอย่างถูกต้อง และจัดจำหน่ายถูกวิธีแล้ว สามารถที่จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในโครงการจัดการทางการเงินของคนหมู่มาก ที่รัฐบาลทั่วโลกต่างสนับสนุนเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น”

หัวหน้าฝ่าย ประกันภัย กลุ่มตลาดเกิดใหม่ตั้งข้อสังเกตว่า ไมโครอินชัวรันส์ ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้ประโยชน์อย่างมากจากการ ประกันภัย บังคับ ซึ่งบ่อยครั้งมักจะเป็นเงื่อนไขที่ผูกติดมากับการยื่นขอสินเชื่อ ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของ ไมโครอินชัวรันส์ ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มโดยรัฐบาล ได้ขยายไปยังกลุ่มคนหมู่มากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังเช่นที่อินเดีย ทางรัฐบาลได้ผลักดันผลิตภัณฑ์ ประกันภัย ต้นทุนต่ำอย่าง ไมโครอินชัวรันส์ ให้เข้าถึงมวลชนผ่านโครงการต่างๆ ที่ทยอยประกาศออกมา อาทิ โครงการ ประกันอุบัติเหตุ เพื่อผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น

ด้านประธานกรรมการ ไมโครอินชัวรันส์ เน็ตเวิร์ค ให้มุมมองว่า การหาพันธมิตรช่องทางจัดจำหน่ายที่เหมาะสม คือกุญแจสู่ความสำเร็จของโครงการ ไมโครอินชัวรันส์ ในตลาดเกิดใหม่ โดยมุ่งไปที่วิธีการที่บริษัท ประกันภัย ในบางประเทศใช้อยู่ คือการใช้เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือและ การเป็นพันธมิตรกับเครือข่ายช่องทางจำหน่ายในท้องถิ่น อาทิผู้ประกอบการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และธนาคาร มาช่วยเป็นช่องทางขาย เพื่อนำสินค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมาย

โดยยกตัวอย่างโมเดลความสำเร็จที่ ศรีลังกา ที่ค่ายผู้นำในตลาดมือถืออย่าง Dialog ที่จับมือกับบริษัท ประกันภัย Cey-linco และ Milvik ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีและ BIMA ขาย ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไมโครอินชัวรันส์ ผ่านโทรศัพท์มือถือ จนปัจจุบันมีลูกค้าโทรศัพท์ทำ ประกันภัย นี้กว่า 10 ล้านราย

รัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง ศรีลังกา ได้เชิญชวนบริษัท ประกันภัย ที่ขาย ไมโครอินชัวรันส์ รวมไปถึงผู้ให้บริการอื่นๆ และผู้จัดหาโซลูชั่นต่างๆ ให้พิจารณาตั้งสำนักงานใหญ่ขึ้นใน ศรีลังกา ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากมาตรการจูงใจต่างๆ ที่กระทรวงกำลังจะนำเสนอต่อรัฐบาล ประกอบการจัดทำงบประมาณประจำปี 2560

สำหรับการจัดประชุมครั้งนี้ มีองค์ปาถกมากกว่า 70 ราย โดยส่วนใหญ่มุ่งไปที่ประเด็นยุทธศาสตร์สำคัญ และปัจจัยในความสำเร็จของ ไมโครอินชัวรันส์ โดยเฉพาะความจำเป็นในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และเครือข่ายมือถือ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในการเข้าถึงกลุ่มคนหมู่มาก และความจำเป็นที่จะรับรองว่า ไมโครอินชัวรันส์ คือธุรกิจประเภทหนึ่ง (แม้จะต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนจากภาครัฐ) และไม่ใช่การกุศล

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์