ค่าย รถยนต์ ประสานเสียง รถยนต์ไฟฟ้า ยังต้องพัฒนาอีกนาน ‘นิสสัน’ หนุนชูเป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวที่ 3 แต่ต้องค่อยๆ เปลี่ยน และให้สิทธิพิเศษจูงใจคนซื้อ ส่วนเบนซ์ชี้ รถยนต์ไฟฟ้า ยังอีกไกล ปลั๊ก-อิน ไฮบริด เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ด้าน ‘โตโยต้า’ ฟันธงสถานีชาร์จไฟยังน้อย ไอบริด ดีสุด

จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 2 สิงหาที่ผ่านมา เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการผลิต รถยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า หรือรถอีวี นั้น ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุน รถยนต์ พลังงานไฟฟ้านั้น ทาง นิสสัน พร้อมให้การสนับสนุน เพราะมีโนว์ฮาวพร้อมอยู่แล้ว โดยปัจจุบัน นิสสัน ลีฟ เป็น รถยนต์ไฟฟ้า ที่มียอดขายอันดับต้นๆ ของโลก มียอดขายไปแล้ว 2.4 แสนคัน นอกจากนี้ยังมี นิสสัน เอ็นวี 200 อีวี รถแวนสำหรับโดยสาร จึงเห็นด้วยกับรัฐบาลที่เริ่มจุดประกายแนวคิดการใช้รถประเภทนี้ในไทย ซึ่งจะเป็นเทรนด์อนาคตสำหรับการใช้ รถยนต์ ของผู้คนทั่วโลก

ขณะที่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ตลาด รถยนต์ไฟฟ้า เกิดขึ้น ประกอบด้วย 1.การสร้างการรับรู้ให้กับคนไทย เนื่องจากปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังไม่ต้องรู้จัก รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ว่ามีประโยชน์อย่างไร ช่วยลดมลพิษอย่างไร ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมแค่ไหน สามารถนำมาใช้จริงบนถนนได้หรือไม่ 2.ผลิตภัณฑ์หรือโปรดักต์มีความพร้อมแค่ไหน ตลาด รถยนต์ ไทยยังไม่มีการเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า อย่างเป็นทางการ จำเป็นต้องมีการสร้างดีมานด์ หรือความต้องการให้เกิดขึ้นในตลาดเสียก่อน ในตลาดต่างประเทศมี รถยนต์ไฟฟ้า จำหน่าย แต่มีราคาแพง รัฐบาลในประเทศนั้นๆ ต้องสนับสนุนด้วยการให้ส่วนลดภาษี ให้เงินพิเศษ ให้สิทธิ์ในการขึ้นทางด่วนฟรี ทำให้ผู้สนใจซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า มากยิ่งขึ้น แต่สำหรับประเทศไทยยังไม่มีส่วนลดเหล่านี้ หากรัฐบาลไทยจะสนับสนุน รถยนต์ไฟฟ้า ให้เกิดขึ้น ก็ควรให้สิทธิพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดภาษีนำเข้า ลดภาษีสรรพสามิต เพราะภาษีเหล่านี้ทำให้ราคารถแพงขึ้นอีกเท่าตัว ต้องทำให้ราคา รถยนต์ไฟฟ้า ถูกลง ดีมานด์ก็จะเกิดขึ้น

ประการที่ 3 สถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก รถยนต์ไฟฟ้า ทั่วไปสามารถชาร์จไฟบ้านเป็นปกติ แต่หากเดินทางไปตามถนน จำเป็นต้องมีสถานีชาร์จไฟความเร็วสูง หรือ ควิก ชาร์จ เหมือนรถเติมน้ำมันตามปั้มริมทาง 4.การสนับสนุนจากภาครัฐ ที่ผ่านมา ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)ฯ เคยเข้าพบนายกรัฐมนตรีและขอให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนให้เป็นรูปธรรม

ด้าน ประธาน บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม เบนซ์มีเทคโนโลยี บลูเทค ไฮบริด ตอนนี้ก็เป็นปลั๊ด-อิน ไฮบริด แทน และในอนาคตคือ รถยนต์ไฟฟ้า อย่างไรก็ตามการจะก้าวไปถึง รถยนต์ไฟฟ้า จะต้องใช้เวลา เพราะต้องดูนโยบายของภาครัฐ กฏระเบียบ, กติกาต่างๆ อินฟราสตรักเจอร์ หรือโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน อาทิสถานีชาร์จ ที่จะมารองรับ แต่เรายืนยันว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่ครบไลน์ ซึ่งหมายถึงจะได้เห็น รถยนต์ไฟฟ้า ภายในปี 2568 อย่างแน่นอน

สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีความพร้อมด้านผลิตภัณฑ์ มีสินค้าที่เป็น รถยนต์ไฟฟ้า แต่ต้องดูความพร้อมในประเทศต่างๆ ด้วย โดยเบื้องต้นมองว่าไทยเหมาะกับ ปลั๊ด-อิน ไฮบริด เพราะสามารถรองรับพลังงานได้หลายรูปแบบ ทากพลังงานใดพลังงานหนึ่งหมดไป ก็สามารถที่จะเลือกใช้พลังงานอีกแบบได้ และเมื่อดูจากตัวเลขการใช้พบว่า ลูกค้าในไทยให้การตอบรับรถแบบ ปลั๊ก-อิน สูงมาก ส่วน รถยนต์ไฟฟ้า นั้นต้องมองถึงความพร้อมของโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งนี้มองว่าหากนำเทคโนโลยีเข้ามาเร็วเกินไป จะกลายเป็นภาระของผู้บริโภค

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นฯ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า รถยนต์ไฟฟ้า จะได้รับความนิยมแค่ไหน ต้องพิจารณาจากระยะเวลาการชาร์จ ระยะทางที่วิ่งได้ในแต่ละครั้ง และสถานีชาร์จไฟฟ้าแพร่หลายแค่ไหน สำหรับ โตโยต้ามองว่า การพัฒนาต้องค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากรถพลังงานไฮบริด ตามด้วยรถแบบ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด แล้วจึงค่อยเป็น รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในสหรัฐอเมริกา รถยนต์ไฟฟ้า มียอดขายน้อยกว่ารถไฮบริด เนื่องจากสถานีชาร์จไฟฟ้ามีไม่เพียงพอ แม้แต่ในญี่ปุ่นรถพลังไฟฟ้า ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ

สอดคล้องกับ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า แม้ว่า รถพลังไฟฟ้า จะไม่มีการปล่อยไอเสียเลย หรือมลพิษ 0% แต่การผลิตไฟฟ้าก็เป็นการสร้างมลพิษให้กับอากาศ เท่ากับเป็นการย้ายมลพิษจาก รถยนต์ ไปอยู่ที่โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าแทน รถยนต์ไฟฟ้า จะได้รับความนิยมมากแค่ไหน ขึ้นกับระยะเวลาการชาร์จไฟฟ้า ระยะทางที่วิ่งได้แต่ละครั้ง สถานีสำหรับชาร์จไฟฟ้ามีมากน้อยแค่ไหน สำหรับโตโยต้ามีการเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนักเมื่อเทียบกับรถไฮบริด เนื่องจากสถานีชาร์จมีไม่เพียงพอ แต่รถ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด วิ่งด้วยพลังไฟฟ้า เมื่อไฟหมดก็เปลี่ยนมาใช้น้ำมันได้

เช่นเดียวกับ บริษัท ประธานบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องสนับสนุนผลิต รถยนต์ไฟฟ้า เป็นโครงการระยะยาว ต่อจากโครงการผลิต รถยนต์ ประหยัดพลังงาน หรือ อีโคคาร์ 2 ซึ่งปัจจุบันมีค่าย รถยนต์ เริ่มต้นผลิตแล้วเพียงรายเดียว คือ มาสด้า ดังนั้นเงื่อนไขการสนับสนุนผู้ผลิต รถยนต์ไฟฟ้า จะต้องไม่ให้ข้อเสนอที่ดีกว่า ถูกใจกว่า เพราะอาจทำให้ผู้ที่ประกาศร่วมโครงการอีโคคาร์ 2 อาจขอยกเลิกการผลิตไปได้ และจะกระทบต่อเนื่องถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จำนวนมากด้วย

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ