ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประกันภัยทั่วไป

โตโยต้าเมินลุย EV ลุย รถยนต์ ไฮบริด ‘นิสสัน’ สบช่องขอเป็นผู้นำ

นโยบายของรัฐบาลสนับสนุนให้มี รถยนต์ พลังงานไฟฟ้า โตโยต้าเมินลุย EV ‘นิสสัน’ จะเป็นผู้นำเทคโนโลยี รถยนต์ ไฟฟ้าโลก

โตโยต้าเมินลุย EV ลุย รถยนต์ ไฮบริด ‘นิสสัน’ สบช่องขอเป็นผู้นำ

สิงหาาคม
3

2 ค่ายผู้ผลิต รถยนต์ รายใหญ่ในไทย เห็นต่างตลาด รถยนต์ ไฟฟ้า หรือ EV ‘โตโยต้า’ เปิดขายแล้วในญี่ปุ่น, สหรัฐฯ ไม่ได้รับความนิยม ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อรถไฮบริดมากกว่า ยอมรับไม่พร้อมขายในไทย ขอลุยไฮบริดก่อน แต่อนาคตไม่แน่ ด้าน ‘นิสสัน’ พร้อมเต็มที่ หวังเป็นผู้นำ รถยนต์ ไฟฟ้าโลก จับมือหน่วยงานภาครัฐและกฟน. โชว์ “ลีฟ” รุ่นแรกในไทย เผยทั่วโลกใน 46 ประเทศ มียอดขาย 225,000 คัน ล่าสุดจัดโชว์ รถยนต์ รุ่นลีฟในงาน ไทยแลนด์ อินดัสตรี เอ็กซ์โป 2016

การพัฒนา รถยนต์ ไฟฟ้าหรือ EV แม้จะผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อมาทดแทน รถยนต์ ที่ใช้น้ำมัน เนื่องจากผลดีในด้านของการลดการใช้น้ำมันให้น้อยลง ลดมลพิษ ซึ่งบรรดาผู้ประกอบการค่าย รถยนต์ ต่างๆ ก็มีการพัฒนารถ EV ต้นแบบออกมาทดลองและใช้งานได้จริงบนถนนแล้วหลายยี่ห้อด้วยกัน โดยเฉพาะ โตโยต้า ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่จากที่ได้วางจำหน่ายในญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกาแล้ว ก็ไม่ได้รับความนิยมในตลาด เพราะลูกค้าส่วนใหญ่สนใจใช้รถไฮบริดมากกว่า

เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวในเรื่องนี้ว่า จากที่ โตโยต้า ได้ทำตลาด รถยนต์ ไฟฟ้าหรือ EV ในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ มานานแล้ว แต่ไม่ได้รับความนิยม ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการใช้รถไฮบริดมากกว่า แม้เราจะทำออกมาขาย แต่สุดท้ายอยู่ที่ลูกค้าว่าต้องการหรือไม่ ซึ่งผลตอบรับก็คือ รถยนต์ ไฟฟ้าหรือ Ev สู้ไฮบริดไม่ได้ ดังนั้นสำหรับการทำตลาดในประเทศไทยแล้ว โตโยต้า ยังไม่พร้อม แต่อย่างไรก็ตาม โตโยต้า จะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะพัฒนา รถยนต์ รุ่นใหม่ๆ และไฮบริดรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดต่อเนื่อง แล้วไม่ค่อยๆ ต่อยอดไปสู่การพัฒนารถ EV ในอนาคต

สำหรับยอดขายตลาดรวม รถยนต์ ในประเทศไทยปีนี้ โตโยต้า คาดว่าจะอยู่ที่ 74,000 คัน ลดลง 7.5% จากปีก่อน โดยครึ่งปีแรกขายไปแล้ว 367,481 คัน ในจำนวนนี้ โตโยต้า มียอดขาย 109,078 คัน โดยตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 240,000 คัน

โดยครึ่งปีหลังจะมีแรงบวกจากนโยบายของภาครัฐ การท่องเที่ยว ภาคบริการ และการลงทุนจากภาคเอกชน รวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จากหลายค่าย รถยนต์ จะเริ่มส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาด รถยนต์ หากแต่เศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวต่อเนื่องมาอย่างช้านาน รวมถึงกำลังซื้อที่จำกัด และความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลก ยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว

“ขอยืนยันว่า ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของ โตโยต้า และเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนตลาดของภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ โตโยต้า ยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับขีดความสามารถของคนไทย ที่มีต่อการผลิตให้เป็นที่ยอมรับ และได้รับความเชื่อถือในระดับสากล ทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา ที่ปัจจุบันคนไทยเข้ามาเป็นหลัก ในการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคนี้มากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านวิศวกรรมการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภูมิภาคนี้ ทั้งนี้เรายังคงมุ่งเน้นการส่งเสริมการเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศมากขึ้น ด้วยการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วน โตโยต้า ในประเทศไทย ตลอดจนการถ่ายทอดนวัตกรรม และเทคโนโลยีด้านการผลิตระดับสูง เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย”

“ถึงแม้ว่าปีนี้จะเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความยากลำบาก แต่ โตโยต้า จะอยู่เคียงคู่กับคนไทย ด้วยความเชื่อมั่นในความพร้อมและฝีมือของคนไทย โดยเราจะร่วมการพัฒนา และยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพื่อให้ประเทศไทยเติบโต และพัฒนาอย่างยั่งยืน”

ทั้งนี้ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า รถยนต์ ไฟฟ้าหรือ EV มีทั้งข้อดีและข้อลบ ข้อดี คือ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างมลพิษในอากาศ ลดการใช้น้ำมันในประเทศลงได้ แต่ข้อลบ คือ อุปสรรค ปัญหาในเรื่องของไฟฟ้า ที่สำคัญคือระบบโครงสร้างพื้นฐานเรื่องไฟฟ้า เราต้องพร้อมก่อน สถานีให้บริการชาร์จไฟจะต้องมีรองรับทั่วประเทศ ดังนั้น จะต้องศึกษารายละเอียด อุปสรรคต่างๆ และความนิยมก่อน เพราะการพัฒนารถ EV ลงทุนเยอะ หากทำต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป และภาครัฐต้องสนับสนุนเรื่องสถานที่ให้บริการชาร์จไฟอย่างเต็มที่ เพราะการชาร์จไฟสำหรับ รถยนต์ ไฟฟ้า นั้นเท่ากับการเปิดแอร์พร้อมกัน 3 เครื่อง

ด้าน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนให้มี รถยนต์ พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย บริษัทนิสสันซึ่งมีความพร้อมด้านเทคโนโลยี รถยนต์ ไฟฟ้า ยินดีที่มีส่วนร่วมและตอบสนองนโยบายของรัฐบาล โดยที่ผ่านมาได้สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ถึงบทบาทของรถพลังไฟฟ้า รวมถึงประโยชน์และคุณค่าที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี รถยนต์ ในอนาคต และยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับยานยนต์รถไฟฟ้าในอนาคต โดยปัจจุบัน นิสสัน ได้ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในการศึกษาพัฒนาสถานีชาร์จไฟ รวมถึงได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดแสดงและให้ความรู้ประชาชนเรื่อง รถยนต์ ไฟฟ้า ซึ่งได้จัดแสดง นิสสัน ลีฟ ในงาน ไทยแลนด์ อินดัสตรี เอ็กซ์โป 2016 แล้วยังจะจัดแสดง นิสสัน ลีฟ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในงานแสดงเทคโนโลยีชิ้นส่วนยานยนต์และอุตสาหกรรมอนาคต (Auto Parts Tech Day 2016) เพื่อตอกย้ำว่า นิสสัน จะเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ เพื่อคน-สิ่งแวดล้อม และผู้นำเทคโนโลยี รถยนต์ ไฟฟ้าโลก โดยปัจจุบัน นิสสัน ลีฟ เป็น รถยนต์ ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก สามารถสร้างยอดจำหน่ายสะสมแล้วกว่า 225,000 คัน ใน 46 ประเทศทั่วโลก

ที่มา : สยามธุรกิจ