รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ผลจากอัตรา ดอกเบี้ย เงินฝากในประเทศไทยปรับตัวลดลงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้บริษัทเริ่มปรับตัว โดยได้นำรูปแบบการทำธุรกิจจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ผลตอบแทน จากอัตราดอกเบี้ยติดลบมานาน แต่ธุรกิจยังเติบโตได้และมีกำไร โดยในปลายเดือนนี้ จะมีการนำแบบ ประกันชีวิต จากญี่ปุ่นมาเปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรก ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่เคยมีบริษัทใดให้ผลตอบแทนในลักษณะนี้
ทั้งนี้ แบบ ประกันภัย ดังกล่าว จะให้ความคุ้มครองแบบชั่วระยะเวลา แต่เมื่อครบกำหนดจะคืนเบี้ยให้ลูกค้า 100% ซึ่งโดยปกติแบบ ประกันภัย ประเภทนี้ จะไม่มีการคืนเงินให้ลูกค้า เป็นการจ่ายแบบสูญเปล่า เพราะถือว่าได้รับความคุ้มครองไปแล้ว แต่บริษัทจะเป็นแห่งแรกที่มีการคืนเบี้ย ประกันภัย ให้ลูกค้า และสามารถนำเบี้ย ประกันชีวิต ไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย เพราะเป็นแบบที่ให้ความคุ้มครอง 10 ปี โดยไม่ตรวจสุขภาพ แต่ต้องแถลงสุขภาพตามความเป็นจริง
"บริษัทจะมีรายได้จากการนำเบี้ย ประกันภัย ไปลงทุน เมื่อครบสัญญาจะคืนเบี้ยให้ลูกค้า 100% ซึ่งเบี้ย ประกันภัย แบบนี้จะต่ำ แต่ได้ความคุ้มครองสูง"
นอกจากนี้ บริษัทจะมีการทบทวนอัตรา ดอกเบี้ย กรมธรรม์ประกันชีวิตใหม่ทั้งหมด เพราะปัจจุบันมีการค้ำประกันผลตอบแทนให้ลูกค้า ตั้งแต่ 3% ขึ้นไป ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับตลาด เพราะมีการขายกรมธรรม์ระยะยาวเป็นหลัก จึงยังสามารถรับมือกับอัตราดอกเบี้ยต่ำได้นาน โดยกรมธรรม์ที่ออกมาใหม่ในช่วงต้นปี 2560 จะให้ผลตอบแทนที่ต่ำลง ในขณะที่บริษัท ประกันชีวิต รายอื่นๆ มีการทยอยปรับลดผลตอบแทนกันไปแล้วตั้งแต่ต้นปี
สำหรับ 6 เดือนแรกปีนี้ ช่องทางตัวแทนมียอดขาย ประกันชีวิต รายใหม่ 380 ล้านบาท เติบโตประมาณ 35% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ถ้ารวมทุกช่องทางจะเติบโต 50% ซึ่งเป็นผลมาจากการทำตลาดกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และแบบ ประกันชีวิต ที่ขาย เน้นเรื่องการวางแผนเกษียณเป็นหลัก โดยลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์บำนาญ อายุเฉลี่ยอยู่ประมาณ 40 ปี แสดงให้เห็นว่าแบบ ประกันภัย ดังกล่าวตอบโจทย์ความต้องการของสังคมไทย และเป็นที่ยอมรับของสังคมในวงกว้าง เห็นได้จากมีหน่วยงานต่างๆ ทั้งเอกชน ภาครัฐ ภาคการศึกษา ให้การยอมรับ ด้วยการเชิญให้ทางบริษัทไปบรรยายเรื่อง การเตรียมรับมือผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : โพสต์ทูเดย์