นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยถึงผลกระทบจากการลงประชามติประเทศอังกฤษ แยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ว่า อังกฤษอาจจะได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ แต่ในไทยมีบริษัทประกันวินาศภัยได้ทำ ประกันภัย ต่อในอังกฤษบ้าง แต่คงไม่ส่งผลกระทบอะไร เพราะว่าเป็นเบี้ยจากต่างประเทศ ถึงแม้เศรษฐกิจอังกฤษจะไม่ดี แต่ก็ใช้เวลานานกว่าจะถึงธุรกิจ ประกันภัย

ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า เบื้องต้นบอกว่าไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันชีวิตในไทย เพราะว่ามีเวลาอีกถึง 2 เดือน ทำให้ตอนนี้ยังมองไม่เห็นภาพชัดเจน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ ประกันชีวิต ปีนี้ยังตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 9% ซึ่งผ่านมา 4 เดือน มีการขยายตัวไปแล้ว 6%

ด้านเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากการที่อังกฤษออกจากยูโรโซน ตนมองจะเป็นผลบวกกับประเทศ เนื่องจากนักลงทุนที่สนใจเข้าไปลงทุนในอังกฤษ อาจจะเกิดความลังเลแล้วหันมาให้ความสนใจ ประเทศไทย แทนก็เป็นได้ เพราะว่านักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุนอังกฤษ ต้องการนำสินค้าเข้าไปในตลาดอียู สำหรับธุรกิจ ประกันภัย ตนมองว่า ไม่ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้น ในทางตรงกันข้ามอาจจะเป็นผลบวกด้วยซ้ำไป เนื่องจากผลประชามติเป็นเบื้องต้นเท่านั้น อีก 2 ปีถึงจะเกิดขึ้น แต่ได้ส่งผลกระทบในทางจิตวิทยา

สำหรับการเดินทางไปประชุมที่ญี่ปุ่น ล่าสุดได้ศึกษากรณีการดำเนินธุรกิจ ประกันภัย ในสถานการณ์ ดอกเบี้ย ติดลบ ซึ่งบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจให้มีกำไรได้ โดยได้ใช้มาตรการหลายอย่าง ประกอบด้วย
1. มีการปรับผลิตภัณฑ์จากออมทรัพย์เป็นควบการลงทุนมากขึ้น ซึ่งการดำเนินการธุรกิจ ประกันภัย ในไทย ก็คล้ายๆ กัน
2. บริษัทดำเนินธุรกิจ ประกันภัย ในประเทศญี่ปุ่นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีบางบริษัทที่มีขนาดเล็ก จึงมีการส่งเสริมให้ควบรวม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้มากขึ้น
3. ส่งเสริมให้บริษัทธุรกิจ ประกันภัย ในญี่ปุ่น เข้าไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้ความสนใจเพิ่มทุนเข้าไปซื้อของสหรัฐอเมริกาแล้ว นอกจากนี้ยังได้เข้ามาลงทุนในประเทศแถบอาเซียน รวมถึงให้ความสนใจธุรกิจ ประกันภัย ในไทยด้วย
4. ทางด้านบัญชี
5. องค์กรกำกับดูแล ได้มีการปรับปรุงกฎระเบียบให้มีความยืดหยุ่นในสถานการณ์ ดอกเบี้ย ต่ำ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ แม้ว่าบางกติกาอาจจะไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล แต่เพื่อให้ธุรกิจ ประกันภัย ในญี่ปุ่นสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ก็ดำเนินการ

“เท่าที่ดู เราก็จะเอาทุกแนวทางมาปรับใช้ในไทย ขณะนี้ผลิตภัณฑ์ควบการลงทุนเราเริ่มแล้ว เราให้การส่งเสริมบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงิน ไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งเน้นภูมิภาคอาเซียนในกลุ่ม CLMV ธุรกิจไทยก็ได้เข้าไปแล้ว”

ที่มา : สยามธุรกิจ