“มาสด้า” ยังแรงต่อเนื่อง ยอดขายพุ่ง 13% เติบสูงสุดในตลาดเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เปิดแคมเปญ “อเมซซิ่ง ไดร์ฟ” ครั้งแรกของการทดลองขับยนตรกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยสกายแอคทีฟ ที่ให้ลูกค้าได้สนุกกับการขับขี่ที่แท้จริง

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองความร้อนแรงของสกายแอคทีฟยอดขาย รถยนต์ เดือนเมษายนโตอีก 13% ซึ่งถือเป็นการเติบโตสูงสุดในตลาดเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยยอดขายทะลุ 3,400 คัน เดินหน้าอัดกิจกรรมทุกโชว์รูมทั่วประเทศ ดึงลูกค้าสร้างประสบการณ์การขับขี่แบบ จินบะ-อิไต ที่ผสานคนและ รถยนต์ เป็นหนึ่งเดียวกัน กับกิจกรรม “อเมซซิ่ง ไดร์ฟ” (Amazing Drive) ให้ลูกค้าได้เรียนรู้ทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง และความสนุกสนานที่ได้รับในการขับขี่ รถยนต์ มาสด้าทุกรุ่นที่ได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย รวมถึงรางวัล รถยนต์ ยอดเยี่ยมของโลกและ รถยนต์ ยอดเยี่ยมประเทศญี่ปุ่น

มาสด้ายอดพุ่งสูงสุด 3 เดือนติด ลุยจัดกิจกรรม ‘อเมซซิ่ง ไดร์ฟ’ ดันต่อเนื่อง

ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจกับรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่มีมูลค่าสูงอย่างเช่น รถยนต์ ดังนั้นก่อนการตัดสินใจลูกค้าจะเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ได้สินค้าที่สามารถตอบสนองกับความต้องการมากที่สุด การทดลองขับจึงเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่มาสด้าเน้นกับลูกค้ามาโดยตลอด เพื่อให้ได้ รถยนต์ ที่เหมาะกับสไตล์ของตนเองมากที่สุด จึงเกิดเป็นโครงการ Mazda Amazing Drive นอกจะได้เรียนรู้ทักษะการขับขี่แบบ จินบะ-อิไต ยังได้สัมผัสถึงสมรรถนะที่แท้จริงของตัว รถยนต์ และยังสามารถนำกลับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

การที่มาสด้าจัดแคมเปญนี้ขึ้นมา เพื่อต้องการให้ลูกค้าได้เรียนรู้ทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง รวมถึงการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่ถูกวิธี เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยได้สูญเสียทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ไปในช่วงเทศกาลต่างๆ สูงมาก การที่ลูกค้าได้เรียนรู้ทักษะเพียงเล็กน้อย อาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในสถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ลูกค้าที่สนใจใน รถยนต์ มาสด้าจะได้มีโอกาสสัมผัสสมรรถนะของ รถยนต์ มาสด้าที่มีองค์ประกอบหัวใจหลักๆ สำคัญด้วยกัน ประกอบด้วย เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ, โคโดะ ดีไซน์, MZD Connect และ i-ACTIVSENSE ได้สัมผัสกับสมรรถนะ รับรู้ได้ถึงการตอบสนองตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ขับขี่ ทำให้การขับรถเป็นเรื่องน่าสนุกและตื่นเต้น ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นเพียงคำพูด ต้องสัมผัสด้วยตัวเองจึงจะเข้าใจ

ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า หากพิจารณาจากยอดขายของเดือนเมษายนที่ผ่าน มาสด้ามียอดการเติบโตสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 3,443 คัน เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา มียอดขายจำนวน 3,050 คัน โดยแบ่งเป็น รถยนต์ นั่งมาสด้า2 จำนวน 1,854 คัน ซึ่งยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดสวนกระแสตลาด รถยนต์ นั่งขนาดเล็กและอีโคคาร์ ที่ภาพรวมยังคงชะลอตัว ตามมาด้วยมาสด้า3 จำนวน 341 คัน มาสด้า CX-3 จำนวน 435 คัน มาสด้า CX-5 ใหม่ จำนวน 278 คัน รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 533 คัน และรถสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดประทุน มาสด้า MX-5 จำนวน 2 คัน จากยอดขายโดยรวมยังคงเพิ่มขึ้นสวนกระแสตลาดต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันว่าคุณภาพของ รถยนต์ และแบรนด์มาสด้านั้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

ปรัชญาจินบะ-อิไต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญเป็นการออกแบบพัฒนา ที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขับและ รถยนต์ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน (Oneness) ที่ผู้ขับจะรู้สึกถึงความเร้าใจทุกการขับขี่ เริ่มตั้งแต่การจัดตำแหน่งที่นั่งของผู้ขับ เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนกับรถ (Driving Position), ทัศนะวิสัยที่ดีในการขับขี่เพื่อความปลอดภัย (Driving Visibility), อัตราเร่งตอบสนองทันใจ นุ่มนวล เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจและราบรื่นตลอดการเดินทาง (Smooth Acceleration & Deceleration), ความสมดุลในการทรงตัว และการควบคุมเพื่อการขับขี่ที่แม่นยำที่สุด (Handling & Balancing), เบรกที่มั่นใจเพื่อความปลอดภัยสูงสุด (Brake) จะช่วยทำให้ลูกค้าที่เข้ามาทดลองขับสัมผัสกับสมรรถนะ และรู้สึกถึงการตอบสนองของ รถยนต์ มาสด้า สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ในการตัดสินใจเลือกแบรนด์มาสด้าให้เป็น รถยนต์ คู่ใจได้ง่ายมากขึ้น

ที่มา : ผู้จัดการ Online