สำนักงาน คปภ. เดินหน้าผลักดัน ประกันภัย พืชผลสู่วาระแห่งชาติ เสนอให้มีการยกร่างกฎหมายโดยเฉพาะ พร้อมคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมากำกับดูแลอย่างเป็นระบบ เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูป ประกันภัย พืชผล เพื่อช่วยเกษตรกรไทยสู้ภัยแล้ง ประเดิมงานเชิงรุก เร่งสร้างเครือข่ายกระจายความรู้ด้านการ ประกันภัย “Training for the trainers” ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิรูปการ ประกันภัย พืชผล เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิต และยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรไทยในประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้คณะทำงานขับเคลื่อนการปฏิรูปการ ประกันภัย พืชผล ได้ประชุมนัดสุดท้าย และได้สรุปข้อเสนอการปฏิรูปการ ประกันภัย พืชผล เป็น 2 แนวทาง คือแนวทางปฏิรูประยะสั้น และระยะยาว โดยในส่วนของแนวทางการปฏิรูประยะสั้น ได้แก่ การเพิ่มพื้นที่เป้าหมายให้มากขึ้น เพื่อให้มีการกระจายความเสี่ยง การขยายระยะเวลาดำเนินโครงการเป็น 3-5 ปี เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อเกษตรกรและผู้รับ ประกันภัย การให้ความรู้ด้าน ประกันภัย แก่เกษตรกร และการปรับปรุงการบริหารจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเอา ประกันภัย เพิ่มขึ้น แต่เบี้ย ประกันภัย ถูกลง ซึ่งระยะสั้นนี้ควรเป็นการปฏิรูปการ ประกันภัย ข้าวก่อน แล้วจึงขยายผลไปยังพืชอื่น
ผลักดันให้การ ประกันภัย พืชผล เข้าไปเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงภัยธรรมชาติ ที่อาจเกิดขึ้นกับเกษตรกร โดย คปภ.มีแผนเดินสายให้ความรู้แก่ผู้เกี่ยวข้องกับเกษตรกรใน 8 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี พิษณุโลก เชียงราย และนครศรีธรรมราช เป็นลำดับเพื่อให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาค
กล่าวเพิ่มเติมว่า จากยอดตัวเลขโครงการ ประกันภัย ข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 92,064 ราย พื้นที่ประมาณ 1.5 ล้านไร่ คุ้มครองภัย 7 ประเภท คือ น้ำท่วม หรือฝนตกหนัก ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ หรือไต้ฝุ่น อากาศหนาว ลูกเห็บ ไฟไหม้ ศัตรูพืชและโรคระบาด โดยปีการเพาะปลูกปี 2559 นี้สำนักงาน คปภ. ตั้งเป้าหมายว่าจะมีเกษตรกรเข้าร่วมทำ ประกันภัย พืชผล 3-5 ล้านไร่ทั่วประเทศ
ที่มา : อาร์วายทีไนน์