ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บมจ.วิริยะประกันภัย เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ออกกรมธรรม์ใหม่ ประกันภัยรถจักรยานยนต์ BIG BIKE ประเภท 1 (ซ่อมห้าง) โดยเริ่มเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เมื่อเดือนธันวาคม ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมาก เฉพาะเดือนมกราคมมี รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ ซื้อ ประกันภัย นี้แล้วประมาณ 500 คัน เกินเป้าหมายยอดจำหน่ายในปี 2559 ทั้งปี ที่ตั้งเอาไว้อย่างน้อย 5,000 คัน สาเหตุที่มีผู้ทำ ประกันภัย เยอะ น่าจะเนื่องมาจากบริษัททำการตลาดเชิงรุก ดิวตรงกับผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่าย รวมถึงสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อ รถมอเตอร์ไซต์ บิ๊กไบค์ อีกทั้งลูกค้ามีความต้องการที่จะทำ ประกันภัย อยู่แล้ว เพียงแต่รอเลือกบริษัท ประกันภัย ที่สามารถรองรับความต้องการของเขาได้เท่านั้น ซึ่งวิริยะฯ น่าจะตอบโจทย์ได้

“เรายังไม่ปรับเป้าหมาย เพราะเป็นปีแรก ขอดูไปก่อน จะเกินเป้าไปเท่าไหร่ เรารับ ประกันภัย ทุกยี่ห้อ ทุกประเภทที่มีจำหน่ายอยู่ในเมืองไทย เริ่มจากยี่ห้อตลาดก่อน อาทิ ฮอนด้า ยามาฮ่า คาวาซากิ ซูซูกิ รวมไปถึงรถนำเข้ามา เช่น เบเนลลี และมีแบรนด์ของอินเดียที่จะเริ่มเข้าไปเจรจาด้วย”

สำหรับกรมธรรม์นี้รับ ประกันภัย รถบิ๊กไบค์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เกิน 250 ซีซีขึ้นไป รับ ประกันภัย รถป้ายแดง และรถที่ต่ออายุกับบริษัท ที่มีอายุ 2 ปี โดยให้ความคุ้มครองเหมือนกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 กล่าวคือ มีทั้งความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายหรืออนามัย ไม่เกิน 500,000 บาท/คน ไม่เกิน 10,000,000 บาท/ครั้ง คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินไม่เกิน 2,500,000 บาท/ครั้ง คุ้มครองความรับผิดต่อ รถจักรยานยนต์ ไม่ว่าจะเกิดความเสียหายจากการเฉี่ยวชน หรือสูญหาย ไฟไหม้ ในวงเงินคุ้มครองไม่เกินทุน ประกันภัย โดยมีความเสียหายส่วนแรก ตั้งแต่ 5,000 - 10,000 บาท/ครั้ง

นอกจากนี้ยังมีความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล 100,000 บาท/คน ค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาท/คน (คุ้มครองผู้ขับขี่ 1 คน และผู้โดยสาร 1 คน) ส่วนการประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา คุ้มครองตั้งแต่ 1.5 ล้าน - 5 ล้านบาท อัตราเบี้ย ประกันภัย ขึ้นอยู่กับทุน ประกันภัย ของรถแต่ละคัน โดยไม่มีเบี้ย ประกันภัย เริ่มต้นที่ 17,718.66 บาท ทุน ประกันภัย คุ้มครองระหว่าง 1.5 แสนบาท-เกินกว่า 8 แสนบาท

บริษัทฯ ยังไม่ได้ประเมินอัตราสินไหมทดแทน (Loss Ratio) เพราะเพิ่งจะเริ่มรับ คงต้องผ่านไปประมาณ 3 เดือน น่าจะพอเห็นตัวเลข แต่เชื่อว่าไม่น่าจะสูงมาก เพราะคนที่จะซื้อรถประเภทนี้มาขี่ได้ ต้องเป็นคนมีเงิน อีกทั้งรถมีราคาแพง ความห่วงใยในทรัพย์สินจะมีสูง ดังนั้นการขับขี่ต้องมีความระมัดระวังมาก อีกทั้งการจะขี่ รถบิ๊กไบค์ ได้ต้องมีการฝึกหัดก่อน และมักจะไปเป็นกลุ่ม โอกาสเกิดอุบัติเหตุน่าจะน้อย ขณะที่บริษัทเองได้วางการตรวจสอบอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลรถกลุ่มนี้ได้ทันที หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

ที่มา : สยามธุรกิจ