ผู้ช่วยเลขาธิการสายพัฒนาและวิเคราะห์ระบบตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ. ยังติดตามสถานะบริษัท ประกันภัย ขนาดเล็กอย่างใกล้ชิด แม้ภาพรวมจะไม่น่ากังวลเหมือนปีก่อน แต่ก็มีบริษัทขนาดเล็กบางแห่งที่มีความเสี่ยงอยู่ เพราะแม้มีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงเกิน 140% หากต้องจ่ายค่าสินไหม หรือค่าคอมมิชชั่น แก่ลูกค้าจำนวนมาก และเก็บเบี้ย ประกันภัย ไม่ได้เป้าหมาย อาจทำให้เกิดปัญหาเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง ลดลงต่ำกว่ากฎหมายได้ นอกจากนี้แนวโน้มการแข่งขันในธุรกิจประกันวินาศภัยปีนี้ยังรุนแรง โดยประเมินว่าจะเติบโต 2% จากปีก่อน หรือมีเบี้ย ประกันภัย รับรวมที่ 220,000 ล้านบาท โดยเฉพาะตลาด ประกันภัยรถยนต์ และประกันภัยทรัพย์สินยังเติบโตจำกัด และแข่งขันลดเบี้ย ประกันภัย หลังบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ลงมาแข่งขันด้วย อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังชะลอตัว ส่งออกลดลง และตลาด รถยนต์ ใหม่ทรงตัว ตลอดจนกำลังซื้อของผู้บริโภคยังน้อย
ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาบริษัท กมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) ล่าสุดมีความเป็นไปได้ว่า กมลประกันภัย จะแก้ไขปัญหาได้ โดยกำลังเจรจาหาพันธมิตรใหม่ในไทยมาร่วมทุน 1 ราย คาดยุติเร็วๆ นี้ โดยผู้ร่วมทุนใหม่จะต้องใส่เงินเพิ่มทุน 100-200 ล้านบาท เพื่อให้ฐานะเงินกองทุนฯ ครบตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งหาก กมลประกันภัย ไม่สามารถหาเงินเพิ่มทุนใหม่ได้ คปภ.จะเสนอรมว.คลัง ให้เพิกถอนใบอนุญาต
ที่มา : ไทยรัฐ