ปลดล็อก แบงก์ ประ กันภัย พ้นบัญชี 3 พ.ร.บ.ต่างด้าว แจงมีหน่วยงานกำกับอยู่แล้ว เชื่อส่งผลดีต่อการลงทุนของไทยระยะยาว หนุนขึ้นฮับในอาเซียน
ร่างกฎกระทรวง ปลดล็อก ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และ ธุรกิจ ประกันภัย ออกจากบัญชีสาม ท้าย พ.ร.บ ต่างด้าวฯ ผ่านกฤษฎีกาแล้ว เตรียมเสนอ ครม.ก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการ มีผลให้นักธุรกิจชาวต่างชาติที่จะประกอบกิจการ "ธนาคารพาณิชย์- ประกันภัย " ในไทย ไม่ต้องขออนุญาตประกอบธุรกิจต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอีกต่อไป เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาคการลงทุนของประเทศในระยะยาว พร้อมหนุนไทยขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านการเงิน- ประกันภัย ในภูมิภาคอาเซียน
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ร่างกฎกระทรวงกำหนดธุรกิจบริการ ที่ไม่ต้องขออนุญาตในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ...." ได้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และเตรียมนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทราบอีกครั้ง ก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
ทั้งนี้ ครม.ได้เห็นชอบในหลักการ ร่างกฎกระทรวงกำหนดธุรกิจบริการ ที่ไม่ต้องขออนุญาตในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.... เมื่อเดือน พ.ค.2558 โดยกำหนดให้ 4 ธุรกิจบริการ ไม่ต้องขออนุญาตประกอบธุรกิจต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอีกต่อไป ได้แก่
1. ธุรกิจธนาคารพาณิชย์
2. ธุรกิจสำนักงานผู้แทนธนาคาร
3. ธุรกิจประกันชีวิต และ
4. ธุรกิจประกันวินาศภัย
ซึ่งเป็นธุรกิจในบัญชี 3 ท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีกฎหมายเฉพาะ และมีหน่วยงานที่กำกับดูแลอยู่แล้ว คือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) และผู้ประกอบการของไทยมีความพร้อมในการแข่งขันมากขึ้น
การนำธุรกิจบริการฯ ดังกล่าวออกจากบัญชี 3 ท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ถือเป็นการส่งเสริมการแข่งขันในภาคธุรกิจบริการ ธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจบริกา รประกันภัย ทำให้เกิดการแข่งขันด้านพัฒนาประสิทธิภาพ คุณภาพการให้บริการ และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในภาพรวมผ่านเงินลงทุน เพิ่มทางเลือกให้แก่ประชาชนและผู้ใช้บริการ ส่งให้เกิดแรงหนุนนำพาประเทศไทยขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านการเงิน- ประกันภัย ในระดับภูมิภาคอาเซียน
ที่มา : อาร์วายทีไนน์