ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประชาสัมพันธ์-สื่อสารองค์กร

แบตเตอรี่ รถยนต์ เลือกอย่างไร

แบตเตอรี่ เป็นเรื่องสำคัญ คนใช้ รถยนต์ จะละเลยไม่ได้ แล้วเราจะใช้แบตเตอรี่แบบไหนดี คำถามที่ผู้ใช้รถอยากรู้

แบตเตอรี่ รถยนต์ เลือกอย่างไร

กันยายน

14

อุปกรณ์ต่างๆ ใน รถยนต์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหมั่นดูแลรักษา สังเกตอาการ การเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ เป็นเรื่องสำคัญที่คนใช้รถจะละเลยไม่ได้ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญของ รถยนต์ ไม่เช่นนั้นรถเราจะจอดจอดอยู่เฉยๆ เท่านั้น

แบตเตอรี่รถยนต์ (Car Battery) เป็นพลังงานเริ่มต้น รถยนต์ มีหน้าที่ส่งกระแสไฟที่มีอยู่ในแบตเตอรี่ไปยังมอเตอร์สตาร์ท เพื่อทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติด เมื่อเครื่องยนต์ทำงานแล้ว แบตเตอรี่ ก็หมดหน้าที่

จากนั้นในเครื่องยนต์จะมี ไดชาร์จ ซึ่งมีหน้าที่ชาร์จกระแสไฟกลับเข้าไปยังแบตเตอรี่จนเต็มเรียบร้อยแล้ว จะมีอุปกรณ์ตัดไฟในรถยนต์เรียกว่า คัทเอาท์ ทำหน้าที่ตัดการชาร์จไฟ ไม่ให้กระแสไฟถูกชาร์จเข้าไปในแบตเตอรี่มากหรือน้อยเกินไป เนื่องจากถ้าแบตเตอรี่ได้รับไฟมากหรือน้อยเกินไปแล้ว จะทำให้แบตเตอรี่นั้นเกิดการเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร

แล้วเราจะใช้แบตเตอรี่แบบไหนดี เป็นคำถามที่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่อยากรู้ ซึ่งหากลองเดินไปถามที่ร้านจำหน่ายแบตเตอรี่ใกล้บ้าน ก็อาจจะได้คำตอบและข้อมูลเรื่องแบตเตอรี่จากผู้ขาย และรวมถึงน่าจะต้องเจอก็คือคำถามกลับมาด้วยว่า ต้องการใช้ แบตเตอรี่แห้ง (แบตเตอรี่แบบพร้อมใช้) หรือ แบตเตอรี่ที่ต้องเติมน้ำกลั่น แบตเตอรี่กึ่งแห้ง และ แบตเตอรี่ไฮบริด ซึ่งแบตเตอรี่แต่ละชนิดแต่ละแบบ ก็จะมีลักษณะการใช้งานและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป

1. แบตเตอรี่น้ำ หรือ แบตเตอรี่ธรรมดา (Conventional Battery) คือ เป็นแบตเตอรี่ที่ต้องทำการเติมกรดเจือจาง (น้ำกลั่น) แล้วทำการชาร์จไฟก่อนนำไปใช้งาน และผู้ใช้ควรหมั่นตรวจดูระดับของน้ำให้อยู่ที่ขีดบนเท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาในการดูแลรถพอสมควร เพื่อให้แบตเตอรี่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา

ข้อดี : มีความทนทานต่อการปะจุไฟเกินและคายประจุ มีอายุที่ใช้งานค่อนข้างนาน และที่สำคัญราคาถูก
ข้อเสีย : ต้องคอยตรวจสอบระดับน้ำกลั่นก่อนการใช้งานอยู่เสมอ อาจจะสัปดาห์ละครั้ง ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และหากมีการเคลื่อนย้ายตัวแบตเตอรี่ ต้องระมัดระวังสารละลายที่อาจรั่วไหลออกมาได้

2. แบตเตอรี่พร้อมใช้ (Maintenance Free Battery) ประเภท แบตเตอรี่กึ่งแห้ง หรือ แบต SMF แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ทันที และไม่ต้องดูแลตลอดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โดยสามารถตรวจสอบสถานะการทำงานเบื้องต้นได้จากการดูที่ตาแมว (Cat eye) เท่านั้น ควรหมั่นตรวจสอบระดับน้ำกลั่นปีละ 1-2 ครั้ง เนื่องจากน้ำกรดภายในแบตเตอรี่กึ่งแห้งนั้นจะเข้มข้นกว่าน้ำกรดในแบตเตอรี่ชนิดน้ำมาก ทำให้ระเหยได้ช้ากว่า

ข้อดี : ไม่ต้องตรวจเช็คหรือคอยเติมน้ำกลั่นบ่อยเหมือนกับแบตเตอรี่น้ำ เพราะภายในแบตเตอรี่มีการป้องกันการระเหยของน้ำกลั่นที่แน่นหนาพอสมควร
ข้อเสีย : แม้จะไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย แต่ก็ต้องหมั่นตรวจเช็คอยู่สม่ำเสมอ อายุการใช้งานอาจไม่นานเท่าแบตเตอรี่น้ำ

3. แบตเตอรี่พร้อมใช้ (Maintenance Free Battery) ประเภท แบตเตอรี่ชนิดไม่ต้องการบำรุงรักษา หรือ แบตเตอรี่แห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากแบตเตอรี่แห้งนั้นไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรเลย อาจจะเหมาะกับคนในยุคปัจจุบันเพราะไม่ต้องคอยเติมน้ำกลั่น และแบตเตอรี่แห้งนั้นสามารถปล่อยทิ้งไว้ในสภาพไม่มีประจุไฟได้นานกว่าแบตเตอรี่ธรรมดา โดยไม่ต้องชาร์จไฟเพื่อกระตุ้นแบตเตอรี่

ข้อดี : เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลรถยนต์ ไม่ต้องตรวจเช็คบ่อยๆ ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น แบตเตอรี่ไม่หมด แม้ไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน
ข้อเสีย : มีราคาสูงกว่าแบตเตอรี่น้ำ และแบตเตอรี่กึ่งแห้ง และที่ตัวแบตเตอรี่จะมีรูระบายอากาศที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งอาจอุดตันได้ง่าย ส่งผลต่อแรงดันภายในแบตเตอรี่

4. แบตเตอรี่ไฮบริด คือ แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ทันที พัฒนามาจากแบตเตอรี่น้ำ เพื่อเป็นการแก้ไขข้อเสียของแบตเตอรี่น้ำที่มีการระเหยของน้ำกลั่นที่สูงมาก ซึ่งแบตเตอรี่ไฮบริดจะมีอัตราการระเหยของน้ำกลั่นน้อยกว่าแบตเตอรี่รุ่นธรรมดามาก มักใช้กับรถที่ใช้งานหนักๆ เช่น รถบรรทุก รถโดยสาร หรือรถรับจ้าง เป็นต้น

ข้อดี : มีการระเหยของน้ำกลั่นน้อยกว่าแบตเตอรี่รุ่นธรรมดามาก ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน
ข้อเสีย : มีราคาที่สูงมาก มักใช้กับรถขนาดใหญ่

แล้วแบตเตอรี่ รถยนต์ แบบไหนดีที่สุด ?

แบตเตอรี่แต่ละชนิดต่างก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้รถว่าจะเลือกใช้แบบไหนดี หากต้องการแบตเตอรี่ที่ทนทาน ราคาถูก แบตเตอรี่น้ำ จะตอบโจทย์ข้อนี้ที่สุด แต่ต้องหมั่นตรวจสอบระดับน้ำกลั่นเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ ส่วนใครที่สตาร์ตรถแล้วขับออกไปทำงานทันที ไม่มีเวลาจะมาตรวจเช็คอะไรบ่อยๆ และไม่เกี่ยงเรื่องราคา แบตเตอรี่แบบแห้ง เหมาะกับคุณมากที่สุด ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ไฟไม่หมดแม้ไม่ค่อยได้ใช้รถ แต่อาจจะต้องเสียเงินมากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ใช้รถก็ควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามจากผู้ผลิต ว่ารถของแต่ละท่านเหมาะสำหรับแบตเตอรี่แบบไหน

ข้อแนะนำในการเปลี่ยนแบตเตอรี่

การเลือกแบตเตอรี่ทุกครั้ง ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดเท่าเดิม และมีแอมป์เท่าเดิม เนื่องจากขนาดและแอมป์ที่ใช้อยู่เดิมนั้น เหมาะสมกับ รถยนต์ แล้ว โดยวิศวกรจากโรงงานผลิตรถยนต์ได้กำหนดให้แบตเตอรี่เหมาะสมกับอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าใน รถยนต์ แต่ละรุ่นไว้เรียบร้อยแล้ว หากต้องการเพิ่มขนาดและแอมป์แบตเตอรี่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด

เครดิต: เพจ เรื่องรถน่ารู้

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์