การเสริมสร้างการรับรู้ เพื่อความรู้ลึก รู้ทัน เกี่ยวกับการ ประกันภัย สำหรับคำถามเกี่ยวกับ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจประเภทสามพิเศษ

คำถาม: การทำ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจประเภทสามพิเศษ ที่กำหนดว่า จะคุ้มครองตัวรถคันที่ทำ ประกันภัย เฉพาะกรณีการเกิดเหตุชนกับรถด้วยกันเท่านั้น สำหรับกรณีการเกิดอุบัติเหตุชนกับรถอีแต๋น (รถไทยประดิษฐ์เพื่อใช้ในการเกษตร โดยใช้เครื่องยนต์คูโบต้า หรือยันมาร์ เป็นตัวขับเคลื่อน) ทางบริษัท ประกันภัย แจ้งว่าไม่คุ้มครอง

เนื่องจาก รถยนต์ ที่ทำ ประกันภัย ไว้นั้น เป็นการทำ ประกันภัยรถยนต์ ประเภทคุ้มครองเฉพาะภัย ที่เกิดจากการชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และเป็นการกับการชนกับรถอีแต๋นซึ่งเป็นรถที่ไม่ได้จดทะเบียนกับกรมการขนส่ง (ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน) ทาง ประกันภัย จึงไม่คุ้มครองความเสียหายของรถที่ได้ทำ ประกันภัย ไว้ การที่บริษัท ประกันภัย ทำอย่างนี้ เป็นเหตุผลที่ถูกต้องหรือไม่? แล้วการ ประกันภัย แบบนี้ให้การคุ้มครองอย่างไรกันแน่?

คำตอบ: คำถามที่เกิดขึ้นนี้ หลายบริษัท ประกันภัย เองก็มักจะใช้เป็นเหตุผล ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่ถูกต้อง อันนี้ต้องบอกกล่าวกันอีกครั้งว่า การ ประกันภัยรถยนต์ แบบคุ้มครองเฉพาะภัย เป็นการ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจอีกประเภทหนึ่ง ที่ทาง คปภ.อนุมัติแบบกรมธรรม์ประเภทนี้ออกมาเพื่อให้เป็นอีกทางเลือกให้กับเจ้าของรถ นอกจากการ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจประเภท 1, 2, 3

โดยการ ประกันภัยรถยนต์ แบบคุ้มครองเฉพาะภัยนี้ จะเป็นกรมธรรม์ที่จะมีการขยายความคุ้มครองที่มากกว่าการทำ ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2, 3 แต่จะคุ้มครองต่ำกว่าการทำ ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 ซึ่งส่วนขยายที่ว่านั้นคือ ปกติแล้วการทำ ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2 หรือ 3 นั้น จะไม่คุ้มครองตัว รถประกันภัย หากตัว รถประกันภัย ได้รับความเสียหายจากการเฉี่ยวชนโดยจะรับผิดชอบให้เฉพาะคู่กรณี

แต่การ ประกันภัย แบบคุ้มครองเฉพาะภัยนี้ จะให้การคุ้มครองต่อตัว รถยนต์ คันที่ทำ ประกันภัย ด้วย หากเกิดการเฉี่ยวชนกับยานพาหนะทางบก แต่หากการเกิดเหตุนั้นไม่ได้เฉี่ยวชนกับยานพาหนะทางบกแล้ว บริษัท ประกันภัย ก็จะไม่ให้การคุ้มครอง ดังนั้น รถยนต์ ที่จะทำ ประกันภัย แบบเฉพาะภัยนี้ต้องเป็นการ ประกันภัย ที่มีพื้นฐานมาจากการ ประกันภัย ประเภท 2 หรือ 3 เท่านั้น ในบางบริษัทจึงมีการเรียกชื่อว่า การ ประกันภัยรถยนต์ ประเภทสามพิเศษ หรือการ ประกันภัยรถยนต์ ประเภทสองพิเศษ หรืออาจจะมีชื่อเรียกต่างกันไป เช่น สามพลัส (3+) หรือสามคุ้ม หรือ สองพลัส (2+) สองคุ้ม สองพิเศษ เป็นต้น

ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 11/2552 เรื่องคู่มือตีความกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ฉบับลงวันที่ 29 เมษายน 2552 ซึ่งนายทะเบียน (คปภ.) ได้ให้ความเห็นชอบและออกเป็นคำสั่งให้ทุกบริษัท ประกันภัย ต้องถือปฏิบัติ โดยมีการตีความตามกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ แบบคุ้มครองเฉพาะภัย ไว้ดังนี้ “บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างระยะเวลา ประกันภัย ต่อ รถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัว รถยนต์ ตามที่ระบุไว้ในตาราง อันมีสาเหตุมาจากการชนกับยานพาหนะทางบก ไม่ว่าจะเกิดจากความประมาทของ รถยนต์ คันที่เอา ประกันภัย หรือคู่กรณี และผู้เอา ประกันภัย สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ ...ยานพาหนะทางบกตามกรมธรรม์ ประกันภัย นี้ ให้หมายถึงเฉพาะรถที่เดินด้วยกำลังเครื่องยนต์ โดยใช้พลังงานเชื้อเพลิง เช่น น้ำมัน ก๊าซ กำลังไฟฟ้า และรวมถึง รถพ่วง รถไฟ และรถราง...”

ยานพาหนะทางบก ให้หมายถึง เฉพาะรถที่เดินด้วยกำลังเครื่องยนต์ หรือ มอเตอร์ไฟฟ้า เท่านั้น โดยไม่คำนึงว่าจะสามารถจดทะเบียน หรือไม่สามารถจดทะเบียน ได้ตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม เช่น รถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถอีแต๋น รถไถนา รถที่ใช้ในการก่อสร้าง รถขายไอศครีมที่ติดเครื่องยนต์ รถสามล้อแดง (ซาเล้ง) ที่ติดเครื่องยนต์ รถโฟล์คลิฟ (รถยกของ) รถที่เดินด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และให้รวมถึง รถไฟ รถราง และรถพ่วง ไม่ว่าจะอยู่ในขณะที่พ่วงอยู่กับตัวหัวลาก หรือไม่ก็ตาม จะเห็นได้ว่าได้มีคู่มือตีความบทนิยาม และความหมายของคำว่า ยานพาหนะทางบก เอาไว้อย่างชัดเจน

ที่มา : เส้นทางนักขาย