การทำคลอดกรมธรรม์ ประกันภัย เพื่อรายย่อย หรือ "ไมโครอินชัวรันส์" ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) และธุรกิจ ประกันภัย ที่จะออกเป็น ประกันภัย อุบัติเหตุ คุ้มครองกรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวร จากอุบัติเหตุทั่วไป และการขับขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ พร้อมกับมีค่าปลงศพ กรณีเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บให้ด้วย ซึ่งเป็นความคุ้มครองพื้นฐาน ตามนโยบายของเลขาธิการ คปภ.

โดยวงเงินความคุ้มครองอุบัติเหตุที่พูดคุยกัน ลงตัวที่ 100,000 บาท ขณะที่กรณีขับขี่ และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ในเรื่องความคุ้มครองจะให้เต็ม 100% ของทุน ประกันภัย หรือแค่ครึ่งหนึ่ง เช่นเดียวกับค่าปลงศพ 10,000 บาท ที่มีประเด็นระยะเวลารอคอย (waiting period) ก่อนกรมธรรม์เริ่มคุ้มครอง รวมไปถึงอัตราเบี้ย ประกันภัย จะอยู่เท่าไหร่ระหว่าง 200-300 บาทต่อปี

แย้ง 2 ข้อ ผวาซ้ำรอย "เอื้ออาทร" คุ้มครอง จยย.เต็มทุน, เวตติ้ง พีเรียด

ล่าสุดทาง คปภ. และภาคธุรกิจประชุมเรื่องนี้กันอีกรอบ โดยข่าวจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ทาง คปภ.เสนอรูปแบบสินค้า เป็น ประกันภัย อุบัติเหตุ คุ้มครองการเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวร ทั้งจากอุบัติเหตุทั่วไป และขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ วงเงิน 100,000 บาทต่อคน ค่าปลงศพ 10,000 บาทต่อคน ระยะเวลารอคอย 90 วัน ขณะที่เบี้ย ประกันภัย 200 บาทต่อคนต่อปี

อย่างไรก็ดี ในมุมของภาคธุรกิจ มีข้อโต้แย้งใน 2 ประเด็นคือ

1. ความคุ้มครองการเสียชีวิต จากการขับขี่ หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ที่คุ้มครองเต็มทุน 100,000 บาท โดยคิดเบี้ย 200 บาท ค่อนข้างปริ่มอัตราความเสียหาย และมีความเสี่ยงสูง เพราะ ประกันภัย ประเภทนี้ บริษัทไม่สามารถคัดเลือกกลุ่มลูกค้า เหมือนการรับ ประกันภัย ปกติได้ ซึ่งภาคธุรกิจเคยมีประสบการณ์ในการรับ ประกันภัย อุบัติเหตุเอื้ออาทรในอดีต ที่เจอปัญหาลูกค้ากลุ่มเสี่ยง เข้ามาซื้อจำนวนมากทำให้ขาดทุน จนต้องหยุดรับ ประกันภัย ไป เพราะไม่ใช่มีแค่ความเสียหายที่สูงเท่านั้น ยังมีค่าใช้จ่ายในกระบวนการรับ ประกันภัย ที่ค่อนข้างสูง ที่บริษัทต้องแบกรับอีกด้วย

2. ระยะเวลารอคอยที่กรมธรรม์ จะเริ่มจ่ายค่าปลงศพที่ คปภ.จะขอแค่ 90 วัน หากเสียชีวิตก่อน ให้บริษัทคืนเบี้ย ประกันภัย ให้กับลูกค้านั้น ภาคธุรกิจเสนอขอขยายเป็น 180 วัน เหมือน ประกันภัย เอื้ออาทร

"ทางเราและ คปภ.ยังมองคนละมุมกันอยู่ อย่างระยะเวลารอคอย 90 วัน ทาง คปภ. บอกให้โครงการเดินไปก่อน ถ้าไม่ไหวแล้วค่อยแก้ไข ทางเรามองที่ 180 วัน เพื่อให้เบื้องต้นโครงการพออยู่ได้ก่อน ถ้ามีกำไรแล้ว ค่อยขยับทีหลังจะง่ายกว่า เรามองว่าทำไมไม่เอาประสบการณ์จากเอื้ออาทรมาเป็นบทเรียน ถ้าคนที่เข้ามาซื้อมีความเสี่ยงสูง เกรงว่าไมโครอินชัวรันส์จะไม่ยั่งยืน ซึ่งทั้ง 2 ประเด็น คปภ.จะกลับไปทบทวนใหม่ และคุยกันอีกครั้ง น่าจะเป็นสัปดาห์หน้า"

รับได้เบี้ย 200/1 คน ซื้อได้ 2 ฉบับ คปภ.เลื่อนวันขายเป็น 1 กันยา

ส่วนค่าเบี้ยประกัน 200 บาท ข่าวกล่าวว่า ทาง คปภ.บอกว่ามีบริษัท ประกันภัย ที่ยื่นขอความเห็นชอบ แบบ ประกันภัย ที่มีความคุ้มครองเหมือนกัน และเบี้ย ประกันภัย ประมาณนี้ ดังนั้นบริษัท ประกันภัย น่าจะขายได้ ซึ่งภาคธุรกิจมองว่า ที่บริษัท ประกันภัย บางแห่งยื่นขออัตราเบี้ยเข้าไป เพราะมีกลุ่มมีเป้าหมายที่จะขายชัดเจน และคัดเลือกลูกค้าได้ ขณะที่ไมโครอินชัวรันส์ไม่สามารถทำได้

อย่างไรก็ดี ค่าเบี้ย 200 บาท ภาคธุรกิจไม่ได้มีข้อโต้แย้ง รับได้ เพราะเข้าใจจุดประสงค์ของ คปภ.ที่อยากส่งเสริมประชาชน ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึง ประกันภัย ในราคาเบี้ยที่สามารถจ่ายได้ โดยให้ประชาชนซื้อได้คนละ 2 กรมธรรม์ เพราะอยากให้มีความคุ้มครองสูงขึ้น เทียบกับ ประกันภัย เอื้ออาทรที่จำกัดซื้อได้คนละ 1 กรมธรรม์เท่านั้น เพราะเอื้ออาทรทุนสูงกว่า สำหรับกำหนดวันขายไมโครอินชัวรันส์ ทาง คปภ.อยากให้เริ่มเปิดตัวในวัน ประกันภัย วันที่ 1 กันยายน ที่จะมีการจัดงานสัปดาห์ ประกันภัย

ประกันชีวิตกลัวทุจริตเคลม ยืดเวลารอคอยก่อนคุ้มครอง

ข่าวจากสมาคมประกันชีวิตไทย ให้ความเห็นว่า ขณะนี้ไมโครอินชัวรันส์เสร็จไป 90% แล้ว โดยมีกำหนดเปิดขายในวันที่ 1 กันยายนนี้ อัตราเบี้ย 200 บาท ทุน ประกันภัย 100,000 บาท โดยคุ้มครองเสียชีวิต และทุพพลภาพ 100,000 บาท ขณะที่กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจักรยานยนต์ และค่าปลงศพ ยังหารือกันอยู่

"เนื่องจากแบบ ประกันภัย นี้ คุ้มครองเสียชีวิตทุกกรณี และไม่มีการตรวจสุขภาพก่อนทำ ประกันภัย จึงอยากให้มีระยะเวลารอคอย เหมือน ประกันภัย ทั่วไป โดยสมาคมฯ เสนอระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หรือ 180 วัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดทุน เพราะเบี้ยต่ำแค่ 200 บาท"

ข่าวจากวงการประกันชีวิต ให้ความเห็นว่า สาเหตุที่สมาคมฯ เสนอระยะเวลารอคอยไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เพราะไม่อยากให้เกิดภาวะไม่สุจริตใจ ในการทำ ประกันภัย หรือ Moral Hazard นำคนป่วยที่นอนอยู่โรงพยาบาล อาการหนักแล้ว มาทำ ประกันภัย เพื่อหวังค่าสินไหม ซึ่งไมโครฯ ค่าเบี้ยถูก หากเกิดกรณีนี้เยอะ ทำให้ขาดทุนได้

ส่วนการซื้อที่จำกัดให้ 1 ราย ซื้อได้ 2 กรมธรรม์ ดังนั้นในแง่ของการขายผ่านตัวแทน ก็อาจจะไม่จูงใจให้ขายนัก เพราะ เบี้ยต่ำ คิดค่าคอมมิสชั่นแล้วไม่มาก เท่ากับขายแบบ ประกันภัย ปกติ ช่องทางการขายที่สะดวก จึงเป็นร้านสะดวกซื้อ และผ่านบริษัท ประกันภัย

"จริงๆ มีคนเสนอให้ขายแบบทุน ประกันภัย 300,000-500,000 บาทด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า แต่ คปภ.ไม่เอา เพราะอยากเสนอขายแบบ ประกันภัย ที่เบี้ยน้อยๆ ซึ่งจริงๆ เบี้ย 200 บาท กับ 500 บาท ค่าใช้จ่ายในการออกกรมธรรม์ก็เท่ากัน"

ที่มา : สยามธุรกิจ