ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) และบริษัท ประกันภัย กำลังรอผลศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ที่ คปภ.ว่าจ้างให้เป็น ผู้ศึกษาการพัฒนาระบบการ ประกันภัยรถยนต์ ภาคบังคับทุกด้าน รวมไปถึงการขยายความคุ้มครองความเสียหายทั้งต่อชีวิต ร่างกาย รวมไปถึงทรัพย์สินบุคคลภายนอก รองรับเออีซี

ส่วนที่จะเห็นในปีนี้คือ ความคุ้มครองชีวิต ร่างกาย ค่ารักษาพยาบาล แม้ยังไม่มีข้อสรุปจะเพิ่มส่วนไหน เท่าไหร่ แต่นโยบายของเลขาธิการ คปภ.ให้เพิ่มความคุ้มครองแน่ ภายใต้เบี้ย ประกันภัย เท่าเดิมคือ รถเก๋ง 600 บาท และรถจักรยานยนต์ 300 บาท

ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.สัญญาณไม่ดี เก๋งขาดทุนหลังเพิ่มคุ้มครอง 3 ปี

"จริงๆ แล้วอัตราเบี้ย พ.ร.บ.ทุกวันนี้ ไม่คุ้มทุนเหมือนอดีต อย่างรถเก๋ง ที่พอหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วมีเบี้ยเหลือมาตลอด สามารถอุ้มผลขาดทุนจากรถยนต์ จักรยานยนต์ได้ แต่ปีนี้รถเก๋งเริ่มติดลบแล้ว ประมาณ 3%Ž" ข่าวจากบริษัท ประกันภัย ที่รับ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.รายใหญ่ แห่งหนึ่งของตลาดให้ข้อมูล

โดยระบุว่า เป็นผลมาจากการเพิ่มความคุ้มครองเมื่อ 1 มกราคม 2553 กรณีเสียชีวิตจาก 100,000 เป็น 200,000 บาท ค่าชดเชยรายวัน การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอีกวันละ 200 บาท สูงสุด 20 วัน ซึ่งเป็นความคุ้มครองใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา ขณะที่เบี้ยเท่าเดิม ทำให้ค่าสินไหมขยับขึ้นมาก เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอีกประมาณ 40-50% ทั้งค่าคอมมิสชั่น และค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ และเงินสมทบที่ต้องนำส่งเข้าบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ปีละ 12.5% ของเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. ทำให้ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.เริ่มติดลบ

อย่างไรก็ดี หาก คปภ.จะขยายความคุ้มครอง โดยไม่ปรับเบี้ยเพิ่มขึ้น จะทำให้ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. ขาดทุนเพิ่มขึ้นแน่นอน มากน้อยขึ้นอยู่กับเพิ่มความคุ้มครองส่วนไหน และเท่าไหร่ ซึ่งค่าสินไหมส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับค่ารักษาพยาบาล และการเสียชีวิต โดยค่ารักษาพยาบาลปรับขึ้นตลอด และมีแนวโน้มปรับขึ้นอีก

ชี้ลอสเรโชพุ่งตลอด ทะลุ 50-60% ชี้ถ้าเพิ่มคุ้มครองอีกขาดทุนหนัก

"ถ้าเพิ่มความคุ้มครอง โดยตรึงเบี้ยเท่าเดิม บริษัท ประกันภัย ขาดทุนเพิ่มขึ้นแน่ ถ้าจะหยุดรับ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.ก็ไม่ได้ เพราะกฎหมายบังคับให้เจ้าของรถทำ ประกันภัยรถยนต์ หรือถ้าจะลดเงินสมทบบริษัทกลางฯ เดี๋ยวจะเกิดปัญหาบริการสะดุด กระทบเป็นวงจร คนเดือดร้อนคือประชาชน สุดท้าย คปภ. ต้องขึ้นเบี้ยอยู่ดี"

จากสถิติของสำนักงานคปภ.พบว่าหลังจากเพิ่มความคุ้มครองเมื่อปี 2553 อัตราค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) เพิ่ม ขึ้นตลอดจากระดับ 40% ในปี 2551-2552 เพิ่มเป็น 60.21% ในปี 2553, 52.25% ใน ปี 2554 และ 51.77% ในปี 2555 ขณะที่ ในช่วง 3 เดือนแรกปี 2556 ยังพุ่งสูงระดับ 57.15% เทียบกับในอดีตอยู่ระดับ 30% ปลายๆ หากรวมกับค่าใช้จ่าย 40-50% ทำให้อัตรารายจ่ายรวม (คอมไบน์ เรโช) เกิน 100% โดยในปี 2555 ธุรกิจประกันภัยมีเบี้ยประกัน พ.ร.บ. 13,185 ล้านบาท

ส.วินาศภัยแนะดูรายจ่ายรวม ขึ้นเบี้ยจยย.ลดเบี้ยเก๋งพอรับได้

ด้านนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า สมาคมฯ เคยนำเสนอกับทาง คปภ.ว่า ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.จัดอยู่ในกลุ่ม ประกันภัย รายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) ไม่สามารถใช้สูตรการคำนวณเบี้ย หรือค่าใช้จ่ายเดียวกับกรมธรรม์อื่นได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อการออกกรมธรรม์แต่ละฉบับ เฉลี่ยประมาณ 200-300 บาท ดังนั้นกรมธรรม์ประเภทนี้ ควรจะมีเบี้ยขั้นต่ำที่เพียงพอ กับค่าใช้จ่ายทั้งหมด หรือคอมไบน์ เรโช

"ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. ควรดูค่าใช้จ่ายอื่นด้วย จะดูแค่ลอสเรโชอย่างเดียวไม่ได้ ถ้าจะปรับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นก็ได้ แต่ต้องมาดูเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด หักแล้วธุรกิจ ประกันภัย เหลือเท่าไหร่ หลักการ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.ไม่กำไร แต่ไม่ขาดทุน เบี้ยรถจักรยานยนต์ 300 บาท ค่าใช้จ่ายต่อกรมธรรม์ 20% เท่ากับ 60 บาทไม่พอ ตอนนี้รถจักรยานยนต์ลอสเรโชสูง แต่เบี้ยไม่สะท้อนความเสี่ยงจริง ถ้าจะเพิ่มความคุ้มครอง ปรับเบี้ยรถจักรยานยนต์ขึ้นอีก 100 บาท แล้วลดเบี้ยรถเก๋ง ลง 100 บาท จะสะท้อนความเสี่ยงได้ดีขึ้น การ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. การชดใช้ค่าเสียหาย ไม่มีใครทำได้ดีกว่าบริษัท ประกันภัย "

ย้อนอดีตเบี้ยเก๋งอุ้ม จยย. กดเคลมต่ำ สินไหมจ่อขยับ เหตุร.พ.โขกค่ารักษา

กรรมการบริหาร และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท มิตรแท้ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จริงๆ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. ทางภาคธุรกิจพยายามที่จะไม่แตะเลย แม้ว่ารถจักรยานยนต์ลอสเรโชจะสูง แต่ก็มี รถยนต์ ประเภทอื่นถัวเฉลี่ยอยู่ ทำให้ลอสเรโชโดยรวมต่ำ จึงยังไม่ปรับเบี้ยเพิ่มขึ้น ทุกฝ่ายรู้ข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้เบี้ย ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. จักรยานยนต์ อยู่ที่บริษัทกลางฯ ที่เดียว โดยมีเงินสมทบจากบริษัทประกันวินาศภัยทุกแห่งช่วยเหลืออยู่ ทำให้ลอสเรโช ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.โดยรวมต่ำ แต่บริษัทประกันวินาศภัยยังมีค่าใช้จ่ายตัวอื่นๆ ด้วย บวกกับเงินสมทบอีก 12.5% ของเบี้ย พ.ร.บ.

"การจะเพิ่มความคุ้มครอง ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ ก็ต้องมาคุยกัน หากเพิ่มจนภาคธุรกิจรับไม่ไหวก็คงไม่ได้ นอกจากดูลอสเรโชแล้ว ต้องดูตัวแปรต้นทุนตัวอื่นด้วย ทั้งเงินสมทบเข้าบริษัทกลางฯ และกองทุนคุ้มครองผู้ประสบภัย"

ข่าวจากบริษัท ประกันภัย แห่งหนึ่งกล่าวว่า หากเพิ่มวงเงินคุ้มครองการเสียชีวิต โครงสร้างเบี้ย ประกันภัย ในปัจจุบัน ยังมีช่องให้เพิ่มได้อยู่ ส่วนเพิ่มเท่าไหร่อีกเรื่องหนึ่ง แต่หากเพิ่มค่าชดเชยการบาดเจ็บ หรือค่ารักษาพยาบาล ต้องดูตัวเลขอีกที ซึ่งในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน 15,000-16,000 คน ขณะที่กรณีบาดเจ็บมีถึง 4-500,000 คน

"ทีดีอาร์ไอติดต่อผ่านทาง คปภ. จะขอเข้ามาคุยกับบริษัทที่มีส่วนแบ่ง ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.เยอะๆ จะดูแนวโน้ม ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. เป็นอย่างไร อย่างค่ารักษาพยาบาล หลังจากรัฐส่งสัญญาณจะปรับ ปรากฏว่าโรงพยาบาลขยับขึ้นแล้ว ดูทิศทางคงขยับราคากันหมด ยิ่งกระทบกับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ และธุรกิจ ประกันภัย แน่นอน"

ด้านข่าวจาก คปภ.กล่าวว่า ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.มีความคุ้มครองหลัก 4 เรื่องคือ ค่ารักษาพยาบาล เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร และชดเชยรายวัน การเพิ่มความคุ้มครองจะอยู่ใน 4 เรื่องนี้ ซึ่งผลกระทบจะต่างกัน ต้องรอผลศึกษาจากทีดีอาร์ไอ จะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ โดยธงของ คปภ.ยังเหมือนเดิมคือ เพิ่มความคุ้มครองแต่ไม่เพิ่มเบี้ย ประกันภัย

ที่มา : สยามธุรกิจ