เมื่อปลายปี 2554 ประเทศไทยเกิดอุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และแม้เหตุการณ์น้ำท่วมดูเหมือนจะไม่ใช่ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เกิดขึ้นมาแล้วก็ผ่านไป แต่ความรุนแรงและยาวนาน บ่งบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และแม้ว่าเทคโนโลยีดาวเทียม จะสามารถทำนายสภาพภูมิอากาศในหลายพื้นที่บนโลกได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงการคาดการณ์ในเวลาไม่กี่วัน ไม่มีใครล่วงรู้ว่าในอีก 10 ปี 20 ปี หรือ 100 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ด้วยเหตุนี้ สมาคมประกันวินาศภัยไทย และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) หรือ GISTDA ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด จึงได้ร่วมมือกันลงนามบันทึกข้อตกลง ใน "โครงการความร่วมมือพัฒนาต้นแบบแผนที่ และแบบจำลอง การประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยจาก น้ำท่วม " เพื่อการพิจารณารับประกันวินาศภัย ระยะที่ 2 โดยขยายขอบเขตการประเมินความเสี่ยงพื้นที่น้ำท่วม ครอบคลุมทุกลุ่มน้ำ และทุกจังหวัดของประเทศไทย เพื่อใช้ในการตัดสินใจวางแผนการรับ ประกันภัย ความเสียหายที่เกิดจาก น้ำท่วม ได้อย่างเหมาะสม และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า จากผลการดำเนินการโครงการในระยะที่ 1 มีบริษัท ประกันภัย ให้ความสำคัญ และความสนใจ เข้าไปใช้งานระบบดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ช่วยสนับสนุนให้การตัดสินใจ ในการประเมินความเสี่ยงด้าน ประกันภัย พิบัติได้ดีขึ้น
ดังนั้น สทอภ. และสมาคมฯ จึงได้ขยายความร่วมมือ เพื่อที่จะพัฒนา และดำเนินการโครงการในระยะที่ 2 ซึ่งโครงการความร่วมมือนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ประธานคณะกรรมการ ประกันภัย ทรัพย์สิน กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ได้มีการขยายพื้นที่ให้ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยใช้ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม และข้อมูลภูมิสารสนเทศ ในการจัดทำแผนที่ประเมินพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อการประเมินความเสี่ยงของพื้นที่เสี่ยงภัย น้ำท่วม ที่มีความน่าเชื่อถือ ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
โดยการดำเนินโครงการในระยะที่ 2 จะจัดทำแผนที่ประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยจาก น้ำท่วม แบบรายตำบล จัดทำต้นแบบของการให้บริการ ระบบสารสนเทศด้านการประเมินพื้นที่เสี่ยงภัย และหาขอบเขตของพื้นที่ น้ำท่วม ที่เกิดขึ้นในอดีตย้อนหลังอย่างน้อย 7 ปี (2549-2555) พร้อมทั้งพัฒนาระบบการสืบค้นข้อมูล ระบบมาตรฐานข้อมูลการรับประกันวินาศภัย ที่อ้างอิงพิกัดทางภูมิศาสตร์ เพื่อให้ระบบสามารถให้บริการ ตอบสนองความต้องการให้กับบริษัท ประกันภัย สมาชิกของสมาคมฯ ได้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่มา : อาร์วายทีไนน์