ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

ประกันภัยขยาดรับก่อการร้าย 3 จังหัวดใต้

ขยาดขายประกันภัยก่อการร้าย รี อินชัวเรอร์ปิดประตูรับเสี่ยงภัย ทิพยม้ามืดปักธงให้ลูกค้าซื้อได้ไม่อั้นหวังได้ใจตลาดรายย่อย

ประกันภัยขยาดรับก่อการร้าย 3 จังหัวดใต้

สิงหาคม
10

นายกสมาคมประกันวินาศภัย เปิดเผยถึงทิศทางการรับประกันภัยใน 3 จังหวัดภาคใต้ว่ามีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเกือบทุกบริษัทประกันภัยขณะนี้ไม่เปิดขายประกันภัยก่อการร้าย โดยมองว่าเป็นภัยที่เกี่ยวข้องทางการเมือง เห็นได้จากเมื่อเกิดความเสียหายภาครัฐจะเข้ามาเป็นฝ่ายเยียวยาภายหลัง ส่วนจังหวัดอื่นหากจะซื้อประกันภัยดังกล่าวก็มีอัตราเบี้ยที่สูงมาก เนื่องจากอัตราเบี้ยจะคิดตามพื้นที่ ทำเล ที่ตั้ง และลักษณะธุรกิจ ส่วนแบบประกันภัยที่ยังสามารถซื้อเพิ่มได้คือประกันอัคคีภัย (ไฟไหม้) เพียงแบบเดียวเท่านั้น

"ต้องยอมรับว่าทั้งโลกและไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ที่ไม่มีบริษัทประกันภัยไหนขายประกันภัยก่อการร้ายแล้ว แต่ก็มีในต่างประเทศซึ่งมีบริษัทประกันภัยต่อหนึ่งเดียว คล้ายกับลักษณะกองทุนอยู่ในตลาดลอยด์ที่ยังรับภัยก่อการร้ายอยู่ โดยส่วนใหญ่ที่รับจะมีทุนประกันภัยมหาศาล เช่น ตึกเอ็มไพร์ สเตต ส่วนตลาดเอเชียหรือแม้แต่ไทย ที่มีมูลค่าทุนประกันภัยต่อกรมธรรม์ไม่สูง จึงไม่อยู่ในพื้นที่ที่เข้ามาให้บริการ"

ด้านรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทยังคงขายประกันภัยก่อการร้าย และยังไม่ได้ยกเลิกแบบประกันภัยดังกล่าวเหมือนบริษัทอื่นแต่อย่างใด โดยทั้งหมดขายผ่านตัวแทนกว่า 6,600 คนทั่วประเทศ นายหน้า-โบรกเกอร์ประกันภัยเป็นหลัก

สำหรับกลุ่มที่ซื้อประกันภัยก่อการร้ายหลักๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น ยังมาจากภาคธุรกิจอันดับ 1 คือ ห้างสรรพสินค้า รองลงมาคือโรงแรมและเสาสื่อสาร เช่น เสาโทรศัพท์ เสาและสายส่งไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีโรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซที่มีการซื้อประกันภัยในแถบจังหวัดสงขลา โดยขายแยกจากประกันอัคคีภัย ซึ่งแบ่งอัตราเบี้ยประกันภัยออกเป็น 2 พื้นที่ ได้แก่ นอกพื้นที่ 3 จังหวัด เริ่มต้นคุ้มครองที่ 1แสน-1ล้านบาท โดยคิดเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นที่ 400 ,450 ,500 ,550 ,600 ,650 ,750 ,850 ,950 และ 1,250บาทตามลำดับ ส่วนพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา คุ้มครองเริ่มต้นที่ 1แสน-1ล้านบาท อัตราเบี้ยเริ่มต้น 700, 900, 1100, 1300, 1500, 1700, 1900, 2100, 1300 และ 2,500บาท ตามลำดับ โดยทั้ง 2 กลุ่มบริษัทจะคิดพิกัดเบี้ยประกันภัยเพิ่มทุก 1แสนบาท

"พื้นที่ที่มองว่ามีปัญหานั้นน่าจะทำให้ประกันภัยกลุ่มนี้ขยายตัว ทำให้เบี้ยประกันภัยรับตรงเพิ่มขึ้นใกล้เคียง 20-30 ล้านบาท โดยเฉพาะครึ่งปีหลังจะเป็นโอกาสทองของประกันภัยก่อการร้าย ที่ได้รับการสอบถามและซื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง"

ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต้ต้นปีที่ผ่านมา มีบริษัทประกันภัยไม่น้อยหรือเกือบทั้งหมดยกเลิกการขายประกันภัยก่อการร้ายแล้ว ซึ่งหากถามว่าผิดปกติหรือไม่ ในความเห็นส่วนตัวเห็นว่าไม่ใช้เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใด เพราะภัยก่อการร้ายนั้นท้ายที่สุดจะต้องส่งงานให้กับต่างประเทศ หากบริษัทใดซื้อประกันภัยต่อไม่ได้แล้วก็ต้องเลิกขายไป เนื่องจากแบกรับความเสี่ยงไม่ไหว ซึ่งจะต่างจากทิพยที่เน้นตลาดประกันภัยเบ็ดเตล็ดเป็นหลัก โดยจากตัวเลขตั้งแต่ต้นปีก็ยังไม่มีการเรียกเคลมจากการถูกระบุว่า เป็นภัยก่อการร้ายแม้แต่รายเดียว

สำหรับสัญญาประกันภัยก่อการร้ายของบริษัท จะครบต่อสัญญาในเดือนกันยายน 2555 โดยสัญญาเป็นแบบต่ออายุปีต่อปี ซึ่งที่ผ่านมามีการซื้อคิดเป็นเบี้ยประกันภัยแล้วเกือบ 800 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากนี้ไปบริษัทจะเน้นกลยุทธ์การขายประกันภัยในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะ 3 จังหวัดและ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา โดยจะมุ่งเจาะลูกค้ารายย่อยโดยเฉพาะ บ้านและที่อยู่อาศัย รวมถึงร้านค้าขนาดเล็ก เพราะจากการศึกษาพบว่าประชาชนในพื้นที่มีการตื่นตัวอย่างมาก แม้ที่ผ่านมาตลาดประกันภัยก่อการร้าย ยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่สนใจซื้อมากกว่าก็ตาม

"ข้อดีของทิพย คือ เราเปิดกว้างให้ใครก็ได้ที่ต้องการทำประกันภัยก่อการร้าย สามารถทำได้ทั่วประเทศ ขณะที่เบี้ยประกันภัยก็ไม่ถือว่าแพง ซึ่งต่างจากบริษัทอื่น หากยังขายก็จะเปิดขายในพื้นที่ที่ไม่ใช่ 3จังหวัดและ 4อำเภอ"

ด้านข่าวจากกลุ่มอาคเนย์ กล่าวว่า ทิศทางและนโยบายการรับประกันภัยในเขตพื้นที่ภาคใต้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของบอร์ดบริหาร โดยคาดว่าจะชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้ สำหรับพอร์ตงานลูกค้าที่อยู่ทางภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประกันภัยรถยนต์ ขณะที่ข้อมูลจากธนาคารธนชาตระบุว่า บริษัทเลิกขายประกันภัยก่อการร้ายแล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยให้ข้อมูลตรงกันว่า อาจมีบริษัทประกันไทย 1-2 ราย จาก 50 กว่าบริษัทที่ยังคงขายประกันภัยก่อการร้ายนี้อยู่ เช่นเดียวกับบริษัทวิริยะประกันภัยฯ และกรุงเทพประกันภัย ซึ่งกรมธรรม์ได้เต็มมาตั้งแต่ปลายปี 2554

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ