สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รายงานการเพิ่มทุนจดทะเบียนในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน มีบริษัทประกันภัยขนาดเล็กเพิ่มทุนจดทะเบียน 2 บริษัท

รายแรกคือบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 543,317,200 บาท จากเดิมมีอยู่ 443,741,100 บาท เป็น 968,058,300 บาท ชำระเต็มจำนวน รายที่สองคือ บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 500,000,000 บาทจากเดิมมีอยู่ 380,000,000 บาท เป็น 880,000,000 บาท เงินเพิ่มทุนของใหม่ยังไม่ชำระ

“จริงๆ แล้วเราได้เงินจากการออกหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ 891 ล้านบาท ในราคาหุ้นละ 170 บาท สูงกว่าราคาที่ตั้งไว้หุ้นละ 100 บาท เมื่อหักเงินเพิ่มทุน 543 ล้านบาท ทำให้มีส่วนเกินมูลค่าหุ้นอยู่ 348 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มทุนเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ตลอด 4 ปี ตั้งแต่ปี 2554-2557 จะเพิ่มทุนตลอด กรรมการผู้จัดการ ทิพยประกันชีวิต กล่าว

จนถึงปี 2557 บริษัทจะเพิ่มทุนโดยประมาณ 2,400 ล้านบาท เมื่อถึงตอนนั้นโครงสร้างผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนที่คุยไว้ ประกอบด้วยธนาคารออมสิน 21% บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) 20% ไทยพร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ หรือไทยบรูไน ฟันด์ 15% พรมพิบาล โบรกเกอร์ 5% และกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม 25% ภายหลังเพิ่มทุน 543,317,200 บาท ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่งมาก อัตราส่วนเงินกองต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (CAR Ratio) กว่า 800% น่าจะสูงสุดในอุตสาหกรรมประกันชีวิตเมืองไทย

“ในฐานะเป็นบริษัทน้องใหม่ เราจะใช้จุดแข็งในด้านฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง สร้างความมั่นคงให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเห็น เพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจในตัวบริษัท เน้นลูกค้าในกลุ่มผู้ถือหุ้นซึ่งจะเป็นฐานลูกค้าหลักของเราในอนาคต เราแข่งขันกับตัวเอง ไม่ได้มุ่งแข่งขันกับใคร”

แม้ผลประกอบการในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 300 ล้านบาทเทียบกับเป้าหมายทั้งปี 3,000 ล้านบาท ในฐานะเป็นบริษัทใหม่ย่อมเจอปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ยังเชื่อมั่นสิ้นปีจะทำได้ตามเป้าหมาย เพราะยังมั่นใจผู้ถือหุ้นที่จะส่งลูกค้าให้รวมถึงระบบงานต่างๆ ภายในบริษัทที่ปรับปรุงไปส่วนใหญ่ พร้อมรองรับการขยายธุรกิจตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป

ในเป้าหมายเบี้ยประกัน 3,000 ล้านบาทจะมาจาก 3 ส่วนคือ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ 55% ประกันชีวิตกลุ่ม 35% และประกันชีวิตรายสามัญอีก 10% ต้องหาตลาดใหม่ๆ เพิ่ม ซึ่งตลาดใหม่ทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้น และหุ้นส่วนของผู้ถือหุ้น

สำหรับเจ้าพระยาประกันภัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ให้ข้อมูลถึงการเพิ่มทุนอีก 500 ล้านบาทว่า บริษัทมีแผนการจะเพิ่มทุนอยู่แล้วรองรับการขยายธุรกิจ เพราะในอนาคตหากบริษัทรับประกันภัยมากขึ้น ต้องเพิ่มทุนให้สอดรับกับความเสี่ยง ซึ่งการเพิ่มทุน 500 ล้านบาท อยู่ระหว่างปี 2555-2557 จะทยอยเพิ่มทีละงวด งวดแรก 125 ล้านบาทในปีนี้ อาจจะเรียกชำระประมาณไตรมาสสี่

“ปีที่ผ่านมาเราเพิ่มทุนเข้าไปอีก 80 ล้านบาท ส่วนครั้งใหม่นี้เป็นการมองเผื่อไปข้างหน้า 500 ล้านบาท น่าจะพอหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น เช่น น้ำท่วมใหญ่เหมือนปีก่อน ผลงานในช่วงครึ่งปีแรกดีมาก ทำเบี้ยประกันภัยรวมได้ประมาณ 1,200 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนทั้งปีทำได้ 1,100 ล้านบาท เป้าหมายของเราปีนี้ 2,000 ล้านบาท”

ที่มา : สยามธุรกิจ