ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

วิริยะยันไม่ปรับเบี้ยประกันภัยรถยนต์ "ซิตี้คาร์" ตั้งเป้ากวาดเบี้ย 2.5 หมื่นล้าน

บริษัทยังมีแนวคิดว่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้ จะต้องอยู่ในระดับที่ทุกคนสามารถทำประกันภัยถยนต์ได้

วิริยะยันไม่ปรับเบี้ยประกันภัยรถยนต์ "ซิตี้คาร์" ตั้งเป้ากวาดเบี้ยประกันภัย 2.5 หมื่นล้าน

เมษายน
1

โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 26 มีนาคม 2555 เวลา 23:56 น.

"วิริยะประกันภัย" ลั่นไม่ขึ้นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ "ซิตี้คาร์" ตั้งเป้าปีมังกรกวาดเบี้ยประกันภัยรับรวมอีก 25,000 ล้านบาท เหตุคนไทยแห่ทำประกันภัยหลังน้ำท่วม ยอดขายรถยนต์พุ่งช่วยหนุน พร้อมยันเงินกองทุนเหลือเฟือไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนแน่นอน ระบุเตรียมแปรรูปเป็นมหาชนเดือนมิถุนายนนี้ หวังขยายฐานลูกค้าภาครัฐเพิ่ม

กรรมการรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทไม่มีนโยบายการปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในส่วนของซิตี้คาร์ เนื่องจากเชื่อว่ายอดจ่ายเคลมสินไหมของบริษัทหลังน้ำ ท่วมยังสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างดี และบริษัทยังมีแนวคิดว่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้ จะต้องอยู่ในระดับที่ทุกคนสามารถทำประกันภัยถยนต์ได้ ซึ่งในปีนี้บริษัทคาดว่าน่าจะทำเบี้ยรับรวม ได้ถึง 25,000 ล้านบาท โดยในส่วนของการรับประกันภัยประเภทนอนมอเตอร์ น่าจะเติบโตได้ถึง 20% หรือมีเบี้ยประกันภัยรับที่ 2,150-2,200 ล้านบาท

"ในปีนี้นอนมอเตอร์ของเราน่าจะโตมากที่สุด แต่ในส่วนของมอเตอร์ปีนี้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ก็น่าจะเพิ่มขึ้น เพราะถ้ายอดขายรถในปีนี้ถึง 1 ล้านคันส่วนแบ่งการตลาดของเราจะอยู่ที่ 35% หรือ 350,000 คัน ซึ่งรถใหม่ป้ายแดง การทำประกันภัยรถยนต์ต่อคันก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นบาท และเมื่อคำนวณแล้วเบี้ยประกันภัยรถยนต์รับของเรา ก็น่าจะเพิ่มได้ตามที่คาดไว้"

อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำการเพิ่มทุนเพื่อดำเนินกิจการ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีเงินกองทุนถึง 14,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ทางคณะกรรมการส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ตั้งไว้ถึง 291%

ขณะที่ความคืบหน้าของการแปรรูปเป็นบริษัทมหาชน จำกัด ตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัยปี 2551 นั้น บริษัทคาดว่าจะสามารถทำได้ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งการเป็นบริษัทมหาชน จะทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังหน่วยงานรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจได้ แต่เบื้องต้นจะยังไม่ทำการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยหากจากมีการกระจายหุ้นเกิดขึ้น บริษัทจะทำการกระจายไปยังพนักงาน และบริษัทที่เป็นพันธมิตรก่อนเท่านั้น

ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท วิริยะประกันภัยกล่าวว่า ธุรกิจประกันวินาศภัยในปีนี้น่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงถึง 160,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 20% เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่หันมาตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันภัยเพิ่มมาก ขึ้นหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยเชื่อว่าการประกันภัยจะเป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่สามารถช่วยลดความกังวลใจ และสามารถบรรเทาความเสียหายที่เกิด ขึ้นได้

หากพิจารณาแยกเป็นด้านตลาดประกันภัยรถยนต์ เชื่อว่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเช่นกัน โดยประชาชนจะหันมาให้ความสนใจทำประกันภัยรถยนต์ชั้น1 มากขึ้น เพื่อที่จะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ในกรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วม

อย่างไรก็ตามกลุ่มเจ้าของรถที่เดิมไม่เคยทำประกันภัยรถยนต์ไว้ อาจหันมาสนใจทำประกันภัยรถยนต์ โดยเริ่มจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 และประกันภัยรถยนต์ชั้น3 ซึ่งปัจจุบันมีการปรับ เงื่อนไขความคุ้มครองเพิ่มเติม ในกรณีได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอีกด้วย

ด้านผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรบริษัท วิริยะประกันภัย กล่าวว่า ผลประกอบการในปีที่ผ่านมา บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 21,754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.66% จากปี 2553 ที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 20,205ล้าบาท โดยแบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 1,986 ล้านบาท และเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจจำนวน 17,975 ล้านบาท

ส่วนเบี้ยประกันภัยประเภทนอนมอเตอร์อยู่ที่ 1,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.46% จากปี 2553 ที่มีเบี้ยประกันภัยรับ 1,608 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยอัคคีภัย 214 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 129 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 1,449 ล้านบาท

ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์