ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

ประกันภัย-ชีวิตกำไรหด ค่ายใหญ่-เล็กโดนกันถ้วนหน้า

ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จากค่าใช้จ่ายสินไหมทดแทนจากน้ำท่วมใหญ่ บริษัทประกันภัยขาดทุนจากการประกันภัย

ประกันภัย-ชีวิตกำไรหด ค่ายใหญ่-เล็กโดนกันถ้วนหน้า

มีนาคม
5

โดย ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 12:26 น.

การเผชิญความท้าทายปัจจัยภายนอกและวิกฤติอุทกภัย ฉุดกำไรค่ายประกันภัย-ค่ายประกันชีวิต ขณะที่บอร์ดค่าย "กรุงเทพประกันภัย" อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้าย 3.75บาทต่อหุ้น หลังขาดทุนกว่าพันล้าน ด้าน "เมืองไทยประกันภัย" ยอมรับขาดทุนจากการประกันต่อ 556 ล้านบาท ส่วน BLA แท็กทีมให้บริการการเงินครบวงจร- SCBLIFE โวการบริหารคุมค่าใช้จ่ายมีประสิทธิภาพ ดันรายได้ทั้งปีทะลุ 3.3 หมื่นล้านบาท เก็บกำไรสุทธิ 705 ล้านบาท

ประธานกรรมการและประธานคณะที่ปรึกษาบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ BKI เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2554 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,104.9 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ที่ผ่านมา แต่กลับมีผลขาดทุนสุทธิ หลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 1,099.1 ล้านบาท ลดลง 255.6% รายได้สุทธิจากการลงทุน 1,592.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.7% กำไรก่อนหักภาษีเงินได้ 442.6 ล้านบาท ลดลง 73.4% และเมื่อหักภาษีเงินได้แล้ว บริษัท มีกำไรสุทธิ 52.0 ล้านบาท ลดลงจากปี 2553 ถึง 95.8% และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 0.68 บาท ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ซึ่งได้ประชุมเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 มีมติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 3.75 บาท รวมทั้งปี 2554 จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 12 บาท

กรรมการผู้จัดการ บมจ. เมืองไทยประกันภัยหรือ MTI มีกำไรสุทธิเพียง 57.01 ล้านบาท ลดลงอย่างมากถึง 336.5 ล้านบาท คิดเป็น 85.5%จากปีก่อน โดยบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 5,745.6 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 820.75 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้มาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ของเบี้ยประกันภัยประเภทรถยนต์ภาคสมัครใจ และประกันภัยประเภทอุบัติเหตุส่วนบุคคล บริษัทมีเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ของปี 2554 เพิ่มขึ้น 552.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น16.1%

"ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จากปีก่อนจำนวน 748.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.2% โดยมีสาเหตุสำคัญจากค่าใช้จ่ายสินไหมทดแทนจากน้ำท่วมใหญ่ครั้งที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องขาดทุนจากการประกันภัยต่อถึง 556 ล้านบาท" กรรมการผู้จัดการกล่าว

ด้านกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. กรุงเทพประกันชีวิต หรือ BLA กล่าวว่า ในปี 2555 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวม 31,807 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 20.08% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2553 ในขณะที่อัตราการเติบโตของธุรกิจอยู่ที่ 11.89% เบี้ยรับรวมของบริษัทจัดอยู่ในอันดับที่ 4 ของธุรกิจ และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 10.13% สำหรับเป้าหมายปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเบี้ยปีแรกขยาย 10% ส่วนเบี้ยรวมตั้งเป้าไว้ที่ 15-20% ในอีก 5 ปีข้างหน้ามีเบี้ยประกันรับรวมติด 1 ใน 3 ของธุรกิจประกันชีวิต จากปัจจุบันอยู่อันดับ 4 ของตลาด

ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายการลงทุน กล่าวถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดในขณะนี้ว่า แนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ยยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การลงทุนที่อาศัยผลตอบแทนสูงทำได้ยากขึ้นทางออกคือ การเข้าไปลงทุนในกลุ่มพันธบัตร ซึ่งBBL ได้คงสัดส่วนไว้ที่ 80% จากพอร์ตลงทุนรวม 1.05 แสนล้านบาท ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเลือกมาหาผลตอบแทนจากการรับประกันภัย ด้วยการปรับลดต้นทุนสินค้าให้สอดคล้องกับสภาพการลงทุนในปัจจุบัน เพื่อรักษาผลตอบแทนจากพอร์ตลงทุนที่มี 1.05 แสนล้านบาท ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 5% เท่าปีที่ผ่านมา"

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต หรือ (SCBLIFE) กล่าวว่า บริษัทกำไรสุทธิ 2,499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น18% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 2,115 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มเป็น 37.58 บาท เทียบกับ 31.81 บาทในปีก่อน โดยมีกำไรสะสมขยับมาอยู่ที่ 7,498 ล้านบาท จากปีก่อนมีจำรวน 5,516 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตถึงอัตรา 36% มีรายได้รวมทั้งสิ้น 33,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,267 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้เข้ามา 27,110 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 23% แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ 29,853 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งทำได้ 24,323 ล้านบาท รายได้จากการลงทุนสุทธิ 3,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2,691 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ อีก 144 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49%

แม้ว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าพนักงานและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติอุทกภัยน้ำท่วม โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 705 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งทำได้ 521 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรายได้รวมทั้งสิ้น 9,125 ล้านบาท เติบโต 37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 6,637 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันรับสุทธิ 8,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% รายได้จากการลงทุนสุทธิ 936 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% และรายได้อื่นๆ อีก 121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% ทั้งนี้ผลกำไรสุทธิดังกล่าว สะท้อนประสิทธิภาพการบริหารและการควบคุมค่าใช้จ่าย ในการปรับตัวรับมือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่สินทรัพย์รวมของบริษัทเพิ่มเป็น 87,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21,176 ล้านบาท หรือเติบโตในอัตรา 32%จากปีก่อน ส่วนสินทรัพย์ลงทุนรวมขยับเป็น 86,176 ล้านบาท จาก 65,155 ล้านบาท คิดเป็น 32% และมีพอร์ตการลงทุนทั้งสิ้น 83,711 ล้านบาท โดยสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่ประมาณ 89% ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจและหุ้นกู้ เป็นต้น

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ