โดย ไทยรัฐ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 05:15 น.
เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยความคืบหน้าในการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ ว่าขณะนี้ยังยึดวงเงินเริ่มต้นที่ 50,000 ล้านบาทเหมือนเดิม แต่ความคุ้มครองให้เพิ่มเป็น 1 ล้านล้านบาท ซึ่งหลังจากผ่านมติ ครม.แล้ว กระบวนการต่อไปคือ จะมีการบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น หรือ MOU กับสมาคมประกันวินาศภัยในการจัดตั้งกองทุนฯ เพื่อให้สามารถขายกรมธรรม์ได้ทันภายในวันที่ 14 ก.พ.นี้ โดยเปิดให้คุ้มครอง 3 ภัย คือ ภัยที่เกิดจากพายุ แผ่นดินไหว น้ำท่วม
ขณะนี้สมาคมฯและ คปภ.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากตลาดต่างประเทศ ว่าแต่ละประเทศมีการคิดค่าเบี้ยประกันภัยอยู่ที่เท่าไหร่ มี sub limit หรือการจำกัดความเสียหายบางส่วนในอัตราเท่าไหร่ โดยดูรูปแบบจากฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และนำตัวเลขเสนอต่อคณะกรรมการกองทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหาคณะกรรมการ
“ราคาเบี้ยประกันภัยในตลาดโลกขณะนี้เรารู้ๆ กันอยู่ว่าสูงมาก เท่าที่มีการสำรวจตลาดและคุยกับรีอินชัวเรอร์ หรือบริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ เขาคิดอัตราเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 8-10% ของทุนประกัน ประเด็นตอนนี้ คือทำอย่างไรให้ได้ส่วนลด โดยเราต้องมีมาตรการบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจน เพื่อให้ได้ส่วนลด 3-5% ซึ่งตอนนี้เราคิดว่าจะต้องได้ส่วนลดลงน้อยกว่า 8% เอาไว้ก่อน ซึ่งนอกจากการปรับโครงสร้างพื้นฐาน เราอาจจะสอบถามรีฯ หลายๆ ราย เพื่อให้ได้ส่วนลดมากกว่าที่สุด ซึ่งเราต้องทำอย่างจริงจังเพื่อให้เบี้ยประกันภัยลง อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเบี้ยประกันภัยจะสูงกว่าราคาเบี้ยก่อนน้ำท่วม แต่หากเบี้ยสูงเท่าราคาปัจจุบันก็คงไม่ไหวเช่นกัน โดยเมื่อสรุปราคาเบี้ยได้ เราก็จะเปิดให้ขายได้เลย”
ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนระบุว่า การที่ให้เอกชนรับความเสี่ยงไป 1% ของความเสียหายนั้น ถือว่าสูงไปนั้น ในมุมมองของ คปภ.มองว่า ณ ปัจจุบันบริษัทประกันวินาศภัยมี 67 บริษัท หากบริษัทประกันภัยไหนรับความเสี่ยง 1% ไม่ได้ก็ไม่บังคับ จะไม่เปิดขายกรมธรรม์นี้ก็ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าเบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่เท่าไร หากออกมาสูงก็ต้องเป็นภาคสมัครใจ เพราะเบี้ยที่คิดกับลูกค้านั้นจะคิดตามความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่ แต่ในทางกลับกันถ้าไม่ขายก็อาจจะเสียโอกาสจากการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้เงินในการจัดตั้งกองทุนที่ 50,000 ล้านบาทนั้น ในหลักการทุกกรมธรรม์ที่บริษัทประกันภัยขายจะรับความเสี่ยงเอาไว้แค่ 1% ที่เหลือ 99% ก็จะส่งให้กับกองทุนฯ
ที่มา : ไทยรัฐ