โดย สยามธุรกิจ วันที่ 14 มกราคม 2555 เวลา 00:00 น.

2 ปีที่ “โตเกียวมารีนประกันชีวิต” กลับมาบุกช่องทางตัวแทนอีกครั้ง และไม่ผิดหวังกับการเติบโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ทำให้บริษัทแม่ “กลุ่มโตเกียวมารีน” พึงพอใจไม่น้อย แม้ว่าปีที่ผ่านมาธุรกิจประกันภัย ทั้ง “โตเกียวมารีนศรีเมืองประกันภัย” และโตเกียว มารีนประกันชีวิต จะได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ แต่กระนั้นก็ยังยืนยันสนับสนุนทั้ง 2 บริษัทต่อเนื่อง

“ผลกระทบจากมหาอุทกภัยในไทยเมื่อปีที่ผ่านมา โตเกียวมารีนศรีเมืองประเมินมูลค่าความเสียหายถึง 81,000 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่มีการเรียกเคลมจากบริษัทประกันภัยต่อ (รีอินชัวเรอส์) และทางกลุ่มโตเกียวมารีนยังสนับสนุนธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาในเรื่องการจ่ายสินไหม ซึ่งกลุ่มโตเกียวมารีนดำเนินธุรกิจในไทยมา 60 ปี โดยประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญและพร้อมสนับสนุนต่อเนื่อง”

กรรมการผู้จัดการอาวุโส โตเกียวมารีน โฮลดิ้งส์ ให้ความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจในไทย โดยทางกลุ่มโตเกียวมารีนพร้อมให้การสนับสนุน ทั้งด้านเงินทุนที่มีมากถึง 1.1 ล้านล้านบาท และด้านสินค้า และวิธีขาย ซึ่งกลุ่มโตเกียวมารีนมีธุรกิจในหลายประเทศ เช่น จีน สิงคโปร์ ไทย อินโดนีเซีย เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ซึ่งแต่ละประเทศมีเทคนิคแตกต่างกัน ก็เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน รวมทั้งสำนักงานใหญ่ญี่ปุ่นก็มีการสนับสนุนกิจกรรมในด้านการขาย และคณิตศาสตร์ประกันภัย

กรรมการผู้จัดการ บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้ปีที่ผ่านมาบริษัทจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ยอดขายตกไปในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ช่วงครึ่งปีแรกและเดือนธันวาคมสามารถทำผลงานได้ดี ทำให้ยังรักษาการเติบโตไว้ได้ โดยเติบโต 34% ด้วยเบี้ยรวม 1,910 ล้านบาท คิดเป็นเบี้ยปีแรก (FYP) 750 ล้านบาท เติบโต 33% และเป็นเบี้ยต่ออายุ 1,160 ล้านบาท เติบโต 35%

สำหรับปี 2555 นี้ คาดว่าครึ่งปีแรกยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมต่อเนื่อง แต่เชื่อว่ายอดขายจะกลับมาปกติในช่วงครึ่งปีหลัง จึงตั้งเป้าเบี้ยปีแรกไว้ 750 ล้านบาทเทียบเท่ากับปีที่แล้ว เบี้ยต่ออายุ 1,600 ล้านบาท เติบโต 38% และเป็นเบี้ยรวม 2,350 ล้านบาท เติบโต 23%

“สาเหตุที่เราตั้งเป้าเบี้ยปีแรกไว้เท่ากับปีที่แล้ว เป็นเพราะงานแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งเป็นประกันชีวิต คุ้มครองสินเชื่อร่วมกับธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ได้หมดสัญญาลงเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้เบี้ยปีแรกจากส่วนนี้จะหายไป ปีนี้เราจึงจะมีงานจากช่องทางหลักๆ คือ ช่องทางตัวแทน ช่องทางประกันกลุ่ม และช่องทางขายผ่านโทรศัพท์ หรือเทเลมาร์เก็ตติ้งเท่านั้น แต่เราก็กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับแบงก์กลาง-เล็กถึง 5 แห่ง เพื่อขอเข้าไปแชร์ตลาด ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป”

อย่างไรก็ดี เชื่อมั่นว่าช่องทาง หลักอย่างช่องทางตัวแทนยังจะ ทำผลงานเป็นไปตามเป้า แม้ปีที่ผ่านมาตัวแทนกว่าครึ่งจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ก็สามารถทำเบี้ยปีแรกได้ถึง 500 ล้าน บาท จากเป้า 550 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าที่ปรับเพิ่มขึ้นจากแผนเดิมที่ต้องทำเบี้ยในปีที่ผ่านมา 330 ล้านบาท แต่สามารถทำได้สำเร็จตั้งแต่ปี 2553

รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาบริษัททำเบี้ยรวมได้ 750 ล้านบาท เติบโตถึง 150% จากปีก่อน แบ่งเป็นเบี้ยปีแรก 500 ล้านบาท เติบโต 52% และเบี้ยต่ออายุ 260 ล้านบาท

“การเติบโตมากกว่า 50% แสดงว่าเราบรรลุเป้าหมาย ซึ่งตามแผนเดิมเราจะมีเบี้ยปีแรก 400 ล้านบาทในปี 2555 แต่เราสามารถทำได้เร็วกว่าแผน ทำให้ปีนี้เราจึงตั้งเป้าเบี้ยแรก 600 ล้านบาท เติบโต 20% เป็นเบี้ยต่ออายุ 640 ล้านบาท เป็นเบี้ยรวม 1,240 ล้านบาท ซึ่งหากว่าเราสามารถทำได้ ก็จะทำให้เป็นปีแรกที่ตัวแทนมีเบี้ยแตะ 1,000 ล้านบาท นับว่าเร็วที่สุด เมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นๆ ซึ่งในอดีตต้องใช้เวลาถึง 7 ปีกว่าจะมีเบี้ยรวมถึงระดับนี้”

ช่องทางตัวแทนสามารถติดอันดับท็อปเทน ในแง่ของเบี้ยปีแรกได้แล้วตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มขายผ่านตัวแทน และเป้าหมายใหม่การขึ้นไปติดอันดับท็อปไฟว์ ของช่องทางตัวแทนให้ได้ ยังไม่รู้จะไปถึงเมื่อใด เพราะการไต่อันดับขึ้นไปจากเดิมอีก 1-2 อันดับค่อนข้างลำบาก เนื่องจากอันดับ 8-9 ในขณะนี้ มีตัวแทนมากกว่าโตเกียวมารีนที่มีอยู่เพียง 2,022 คน

“แต่การรณรงค์ขายสินค้าบำนาญมาตลอด 2 ปี ซึ่งเป็นสินค้าที่เหมาะกับการเกษียณอายุของคนไทยแท้จริง ทำให้อัตราความยั่งยืนกรมธรรม์ (Persistency) ไม่ต่ำกว่า 95% ค่าเฉลี่ยเบี้ยต่อกรมธรรม์สูงถึง 40,000 บาทต่อกรมธรรม์ สูงกว่าตลาดมากทั้งๆ ที่ลูกค้าของเราไม่ใช่ระดับ High End ทั้งหมด และเรามีตัวแทนเพียง 2,022 คน สะท้อนให้เห็นว่าเรามีการขายคุณภาพ ปีนี้เราจะพยายามเสริมการบริการและรูปแบบสินค้าที่พึงพอใจต่อลูกค้า โดยจะมีตัวแทนเพิ่มเป็น 3,200 คนในการนำเสนอขาย”

ที่มา : สยามธุรกิจ