โดย สยามธุรกิจ วันที่ 11 มกราคม 2555 เวลา 00:00 น.
ปัญหาในเรื่องของอัตราเบี้ยประกันอัคคีภัย ขยายความคุ้มครองภัยน้ำท่วม ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดพิกัดอัตราขั้นต่ำ-สูงระหว่าง 0.01-0.1% ของทุนประกันภัย ซึ่งต่ำเกินไปไม่เพียงพอกับความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ ที่ผ่านมาบริษัทรับประกันภัยต่อ (รีอินชัวเรอส์) ไม่สามารถโค้ดราคาเบี้ยให้ได้ เพราะสูงกว่าเพดานที่คปภ.กำหนดทำให้บริษัทประกันภัยขายไม่ได้ ประชาชนไร้ความคุ้มครองกำลังได้ข้อยุติ
นายกสมาคมประกันวินาศภัย เปิดว่า ทางคปภ.เห็นชอบในหลักการยืดหยุ่นอัตราเบี้ยประกันภัยพิเศษ สำหรับความคุ้มครองภัยธรรมชาติ ไม่ต้องมีเพดานกำหนดตามที่สมาคมฯ ทำหนังสือร้องขอเข้าไป เพียงแต่คปภ. ยังไม่มีหนังสือตอบรับเป็นลายลักษณ์อักษรกลับมา ซึ่งการขอให้ยืดหยุ่นเพื่อให้กลไกตลาดควบคุมเอง เป็นแนวทางเดียวกับประเทศที่มีระบบการค้าเสรี เป็นการเตรียมความพร้อมรับการเปิดเสรีอาเซียน (AEC)
“การยืดหยุ่นอัตราเบี้ยประกันภัย ในแง่ผู้บริโภคอาจจะทำให้ซื้อประกันภัย ในราคาเบี้ยถูกลงกว่าตอนที่มีการกำหนดพิกัดอัตราไว้ กระตุ้นประชาชนทำประกันภัยเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจประกันภัยแข่งขันได้มากขึ้น”
ด้านผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันวินาศภัย กล่าวเสริมว่า ปัญหาของการทำประกันภัยคุ้มครองภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำท่วมในขณะนี้ คือประชาชนหาซื้อความคุ้มครองไม่ได้ เนื่องจากประเทศไทยเจอความเสียหายจำนวนมากจากน้ำท่วม ทำให้ต้นทุนของธุรกิจประกันภัยเพิ่มขึ้น ขณะที่เบี้ยประกันภัยในปัจจุบันไม่เพียงพอกับความเสียหาย
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องขอยืดหยุ่นอัตราเบี้ยภัยธรรมชาติ เพราะหลักการความคุ้มครองในปัจจุบัน คิดคนละแบบกับในอดีต เดิมบอกหากซื้อความคุ้มครองภัยพิเศษเพิ่มเติม ทุนประกันภัยของภัยพิเศษจะเท่ากับทุนประกันอัคคีภัย พอมีเคลมเกิดขึ้น ก็มีเรื่องการทำประกันภัยต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สิน (under insurance) ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบส่วนหนึ่ง
พอเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนความคุ้มครองภัยพิเศษพวกนี้ใหม่ เป็นแบบจำกัดวงเงินความคุ้มครอง (Sub limit) ความคุ้มครองเป็นแบบการประกันภัยความเสียหายส่วนแรก หรือเฟิร์ส ลอสส์ (first loss) จ่ายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเฟิร์ส ลอสส์ที่กำหนดไว้ เมื่อความคุ้มครองเปลี่ยนไป เป็นที่มาของการขอยืดหยุ่นเบี้ยประกันภัยจาก 0.01-0.1% เป็นไม่มีเพดาน เพราะการคิดเบี้ยแบบเดิมไม่เหมาะสม
สำหรับอัตราเบี้ยประกันภัย กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิด (Industrial All Risk:IAR) อัตราเบี้ยในปัจจุบันน่าจะยังเพียงพออยู่ หากเป็นทรัพย์สินที่มีทุนประกันภัยต่ำกว่า 300 ล้านบาท เบี้ยประกันภัย IAR = 105% ของเบี้ยอัคคีภัย+ภัยพิเศษ หากเป็นทรัพย์สินที่มีทุนประกันเกินกว่า 300 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยต่ำสุดอยู่ในอัตรา 0.09% สูงสุด 2.35%
ที่มา : สยามธุรกิจ