โดย สยามธุรกิจวันที่ 11 มกราคม 2555 เวลา 00:00 น.

ข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทประกันภัยหลายแห่ง อาทิ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอขยายความ คุ้มครองภัยธรรมชาติ อาทิ น้ำท่วมสำหรับ กรมธรรม์รถยนต์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ชั้น 1 อาทิ ชั้น 2 ชั้น 3 โดยขอเป็นเอกสารแนบท้ายเข้ามา เพื่อนำไปติดท้ายกรมธรรม์ดังกล่าว เหมือนประเภท 3 พลัส หรือ 2 พลัส ที่คุ้มครองรถชนรถ

“ในเรื่องของวงเงินความคุ้มครอง (ทุนประกันภัย) ภัยน้ำท่วมพวกชั้น 2 ชั้น 3 หรือพวกพลัสบริษัทประกันภัยจำกัดจำนวนเงินอยู่แล้วเป็นแบบซับลิมิต ไม่ได้ให้เต็มทุนเหมือนประกันภัยรถยนต์ชั้น1 คปภ.ไม่ได้มีธงหรือมีข้อจำกัดต้องให้เท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทแล้วแต่ความสามารถในการรับประกันภัย ในการชำระค่าสินไหมของเขาและดูความเสี่ยงด้วย แต่ก็เชื่อว่าเขาให้ไม่เยอะ เพราะโอกาสเกิดมีสูงอย่างภาคใต้ท่วมซ้ำซาก ใครจะกล้ารับมากคงจำกัดทุนให้นิดเดียว เราอนุมัติให้ไปบ้างแล้วเรา ดูว่าเป็นความต้องการของผู้บริโภคนอกจากประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แล้วยังมีชั้น 2 ชั้น 3 ที่คุ้มครองภัยน้ำท่วมเบี้ยถูกกว่าชั้น 1 ให้กับประชาชน”

สำหรับค่ายประกันภัยรถยนต์อันดับหนึ่งของประเทศอย่างวิริยะประกันภัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติขยายความคุ้มครอง ชั้น 2 ชั้น 3 บวกน้ำท่วมอยู่ รูปแบบก็เหมือนกับแบบ 3 พลัส ซึ่งความคุ้มครองใหม่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ตามความเสียหายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนเบี้ยประกันภัยไม่ได้กำหนดขึ้นอยู่กับทางคปภ. ซึ่งจะกำหนดเป็นอัตราขั้นต่ำ-สูงให้

สาเหตุที่บริษัทหันมาทำตลาดแบบประกันภัยนี้อยากมีสินค้าให้ครบ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ตื่นตัวหลังเกิดน้ำท่วม ซึ่งหลายบริษัทก็ขอเข้าไปที่คปภ.เช่นกัน และคิดว่าคงจะมีลูกค้าสนใจอย่างกลุ่มที่เคยซื้อชั้น 3 จะมาซื้อแบบใหม่นี้ โดยเงื่อนไขการรับประกันภัยใช้เกณฑ์เดียวกันชั้น 3 คือรับรถอายุไม่เกิน 10 ปี

ขณะที่กรุงเทพประกันภัย ผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมทดแทน บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คปภ. เพิ่งอนุมัติให้บริษัทออกบันทึกสลักหลัง หรือเอกสารแนบท้ายขยายความคุ้มครองภัยน้ำท่วม กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ซึ่งจะนำไปแปะหลังกรมธรรม์ ชั้น 2, ชั้น 3, 2 พลัส, 3 พลัสก็ได้ โดยกำหนดความคุ้มครองเป็นแบบซับลิมิต แต่ไม่ได้ระบุวงเงินความคุ้มครองเท่าไหร่ ขณะที่เบี้ยประกันภัยไม่ได้กำหนดเช่นกัน ใช้พิกัดอัตราเดิมที่ยังคงเพียงพออยู่ได้ ขึ้นอยู่กับจะเลือกใช้อัตราเบี้ยเท่าไหร่

แนวโน้มแบบประกันภัยใหม่ดังกล่าวน่าจะไปได้ดี แม้ขณะนี้จะเกิดน้ำท่วมที่ภาคใต้ หลังน้ำท่วมใหญ่หลายจังหวัดเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เสี่ยงส่วนหนึ่ง เพราะประกันภัยรถยนต์ บริษัทประกันภัยต่างๆ รับประกันภัยไว้เองเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ประกันภัยต่อไปต่างประเทศ เหมือนประกันภัยไม่ใช่รถยนต์ (นอน มอเตอร์) มีสถิติและข้อมูลเพียงพอ อีกทั้งความเสียหายอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ เป็นการช่วยประชาชนเจ้าของรถที่ไม่สามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ได้ คือรถที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป ให้มีความคุ้มครองภัยน้ำท่วมเหมือนชั้น 1 บริษัทประกันภัยหาสินค้ามารองรับ

ด้านบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ให้ความเห็นว่า ตนให้นโยบายไปแล้วว่า อยากจะขายประกันภัยรถยนต์ชั้น 2, ชั้น 3, 2 พลัส และ 3 พลัสบวกน้ำท่วม ให้ทีมงานไปศึกษารายละเอียดและยื่นขอกับคปภ. คิดว่าน่าจะยื่นขอไปแล้ว โดยมองว่าประชาชนจำนวนมาก มีความต้องการซื้อความคุ้มครองประเภทนี้ เพราะปัจจุบันกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ที่คุ้มครองน้ำท่วมมีแค่ชั้น 1 เพียงอย่างเดียว ขณะที่รถยนต์ประมาณ 50,000 คันที่ถูกน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา ไม่มีความคุ้มครองน้ำท่วมเกือบ 30,000 คัน ส่วนใหญ่เป็น 2 พลัส กับ 3 พลัส

ส่วนบริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด ผู้บุกเบิกประกันภัยรถยนต์ตระกูลพลัส ก่อนหน้านี้กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะออกกรมธรรม์ 2 พลัส และ 3 พลัส บวกภัยน้ำท่วมเพิ่มเติม ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเริ่มน้ำเริ่มท่วม แต่ก็ได้ชะลอไว้ก่อน โดยขอดูตัวเลขสถิติความ เสียหายจริงก่อน คาดว่าจะออกได้ประมาณช่วงสงกรานต์ ทั้งนี้กรมธรรม์ 2 พลัส และ 3 พลัส บวกภัยน้ำท่วมนี้ คอนเซปต์จะเหมือนกับกรมธรรม์กันชน คือ เป็นสัญญาแนบท้าย ลูกค้าที่มี 2 พลัสและ 3 พลัสอยู่สามารถซื้อเพิ่มได้

โดยจะให้ความคุ้มครองกรณีรถจอดอยู่ในบ้านแล้วถูกน้ำท่วม หรือระหว่างที่ขับไปแล้วเจอน้ำท่วมรถเสียหาย แต่ไม่คุ้มครองกรณีที่ว่ารู้ว่ามีน้ำท่วม ก็ยังขับขี่ออกไปทุกวันจนเจอน้ำท่วม “ตอนนี้เราขอดูตัวเลขสถิติจริงต่างๆ ก่อน ว่าเบี้ยควรจะเป็นเท่าไร ที่เราขายแล้วต้องไม่ขาดทุน และลูกค้าซื้อได้เบี้ยไม่แพง เพราะหากเบี้ยแพงเกินไป ก็น่าจะเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ไป ซึ่งคาดว่าหากเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 2 พลัส และ 3 พลัส ที่เราขายอยู่เดิมไปประมาณ 5% ก็ถือว่าน่าจะพอได้ ภัยน้ำท่วมเป็นภัยที่หลีกเลี่ยงได้ เชื่อว่าต่อไปตลาดจะขายคุ้มครองเพิ่มภัยน้ำท่วมกันเยอะ เพราะต่อไปจะถือเป็นภัยที่เกิดขึ้นบ่อยต้องมีขาย”

สำหรับการขยายความคุ้มครองภัยน้ำท่วม สำหรับประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่นนั้น แหล่งข่าวในวงการเคยแสดงความเห็นว่า ทุนประกันภัยอาจจะเริ่มต้นที่ 50,000 บาท เบี้ยอาจจะคิด 0.5% กล่าวคือทุนประกันภัย 10,000 บาท เบี้ยก็เท่ากับ 50 บาท ทุนประกันภัย 100,000 บาทเบี้ย 500 บาท

ที่มา : สยามธุรกิจ