ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

สินไหมประกันภัย รถยนต์จมน้ำไม่ต่ำ 500 ล้าน

คาดการณ์จากรถที่ถูกน้ำท่วมหนักสุดมิดคันมีประมาณ 100 คัน แต่ของจริงค่าเสียหายอาจจะมากกว่านี้ก็ได้ เพราะน้ำยังมาอยู่เรื่อยๆ

สินไหมประกันภัย รถยนต์จมน้ำไม่ต่ำ 500 ล้าน

ตุลาคม
21

โดย สยามธุรกิจ วันที่ 19 ตุลาคม 2554 เวลา 00:00 น.

ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสินไหมทดแทน บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด และประธานชมรมสินไหมยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า สมาคมประเมินความเสียหายประกันภัยรถยนต์ทั่วประเทศ จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2554 พบว่าค่าสินไหมทดแทนทั้งอุตสาหกรรมไม่น่าจะต่ำกว่า 300-500 ล้านบาท โดยมีรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายประมาณ 5,000 คัน ทั้งเสียหายสิ้นเชิงจ่ายเต็มทุนประกันภัย (Total Loss) และเสียหายบางส่วน เฉพาะที่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น1 เท่านั้น ที่มีความคุ้มครองน้ำท่วม ส่วนประกันภัยรถยนต์อื่นไม่คุ้มครองน้ำท่วม

“ค่าเสียหายที่ประเมินไว้อาจจะดูไม่มาก หากเทียบกับจำนวนรถยนต์ที่จมน้ำ เพราะส่วนหนึ่งเป็นรถที่ไม่มีประกันภัย อีกส่วนหนึ่งไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ขณะเดียวกันรถยนต์ใหม่ป้ายแดงประมาณ 200 คันในโรงงานฮอนด้า ที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมที่จมน้ำทั้งหมด เท่าที่ตรวจสอบข้อมูลทำประกันภัยทางทะเลและขนส่ง (มารีน) ไว้กับบริษัทมิตซุยสุมิโตโมและบริษัท โตเกียวมารีนที่ประเทศญี่ปุ่น ต้องเรียกเคลมที่ญี่ปุ่น ไม่ได้รวมอยู่ในความเสียหายของธุรกิจประกันวินาศภัย โดยรถยนต์ทั้ง 200 คัน หลังจากนี้ต้องนำไปทำลายไม่สามารถนำออกขายได้”

ส่วนตัวเลข 500 ล้านบาท เป็นความเสียหายที่ประมาณการไว้สูงสุดในตอนนี้ คาดการณ์จากรถที่ถูกน้ำท่วมหนักสุดมิดคันมีประมาณ 100 คัน แต่ของจริงค่าเสียหายอาจจะมากกว่านี้ก็ได้ เพราะน้ำยังมาอยู่เรื่อยๆ แต่ส่วนหนึ่งเจ้าของรถทุกคันรู้ตัว และเคลื่อนย้ายรถหนีได้ทัน จึงทำให้ความเสียหายไม่มากเท่ากับปีก่อน ทั้งที่ปีนี้น้ำท่วมหนักกว่าและกินพื้นที่กว้างกว่ามาก

ในส่วนของวิริยะฯ มีรถยนต์ของลูกค้า ได้รับความเสียหายประมาณ 1,200 คัน คาดว่าค่าเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท เบื้องต้นมีรถเสียหายสิ้นเชิงประมาณ 100 คัน น้อยกว่าปีก่อนที่มีรถยนต์ลูกค้าเสียหายประมาณ 1,600-1,700 คัน ค่าสินไหมทดแทนประมาณ 200 ล้านบาทนับว่าค่อนข้างหนัก เนื่องจากเจอน้ำท่วมหนักที่โคราชและหาดใหญ่ ซึ่งมีรถยนต์ถูกน้ำท่วมมิดคันจำนวนมาก และไม่สามารถนำรถออกมาได้ โดยบริษัทมีการทำประกันภัยต่อไว้ ส่วนที่เกินจาก 100 ล้านบาทซึ่งทาง ประกันภัยต่อเป็นผู้จ่าย

ด้านนายกสมาคมประกันวินาศภัย กล่าวว่า ทางสมาคมฯ จะเร่งทำแผนที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม (Flood Mapping) ที่ทำร่วมกับทางสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) หรือ GISDA ออกมาให้เร็วที่สุดภายใน 1-2 เดือนนี้ จากเดิมกำหนดเป้าหมายภายใน 6 เดือน โดยจะจ้างผู้เชี่ยวชาญคนไทย มาอ่านข้อมูลดิบที่เป็นภาพถ่ายดาวเทียมแสดงพื้นที่น้ำท่วมที่ทาง GISDA จัดทำให้ย้อนหลัง 5 ปี มากำหนดเป็นแผนที่ความเสี่ยงภัยเป็นรายตำบลออกมา โดยจะพยายามทำให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด จากเดิมจะเริ่มแค่ 16 จังหวัดบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาและท่าจีน ขณะที่เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. ในส่วนภูมิภาค และภาคธุรกิจประกันภัย เกี่ยวกับบริษัทประกันภัยที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ได้แก่ จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ อุทัย ธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ปทุมธานี และนนทบุรี มีจำนวนทั้งสิ้น 179 สาขา แบ่งเป็นบริษัทประกันชีวิต 90 สาขา และบริษัทประกันวินาศภัย 89 สาขา โดยปิดทำการชั่วคราวไปเพียง 16 สาขา เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูง โดยสาขาบริษัทส่วนใหญ่ยังคงเปิดให้บริการประชาชนตามปกติ

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร และนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าความเสียหาย เพื่อเตรียมการชดใช้ภายหลังน้ำลด

อย่างไรก็ดี จากการสำรวจข้อมูลการทำประกันภัยของนิคมอุตสาหกรรม ที่ประสบอุทกภัยและพื้นที่เสี่ยงภัยรวม 7 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรม Hi-Tech นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบางกระดี่ และนิคมอุตสาหกรรมนวนคร พบว่าทั้ง 7 แห่ง มีจำนวนเงินเอาประกันภัยรวมทั้งสิ้น 410,177 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเพียง 2.66% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยของการประกันภัยทรัพย์สินของธุรกิจประกันภัยทั้งระบบ

ที่มา : สยามธุรกิจ