ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

เปิดเสรี ไทยพร้อมเบี้ยประกันภัย-ฐานะการเงินปึ้ก

บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่ในอาเซียนรวมทั้งไทย มีผู้ถือหุ้นเป็นต่างชาตินอกอาเซียนทั้งสิ้น เริ่มใช้อัตรามรณะไทยปี 2551 ทำให้เบี้ยประกันภัยถูกลง 20%

เปิดเสรี ไทยพร้อมเบี้ยประกันภัย-ฐานะการเงินปึ้ก

ตุลาคม
10

โดย สยามธุรกิจ วันที่ 10 ตุลาคม 2554 เวลา 00:00 น.

นับถอยหลังการเปิดเสรีภาคบริการทางการเงินภูมิภาคอาเซียน หรือ การเข้าร่วมเป็นประชาคมอาเซียน (AEC) ที่จะเริ่มอย่างเป็นทางการในปี 2558 (2015) นี้ ทำให้ธุรกิจประกันภัยเริ่มถูกจับตามองอีกครั้ง ถึงความพร้อมและโอกาสในการเข้าไปขยายธุรกิจ ในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนของประกันภัยไทย ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ชี้ 2 ประเทศ ที่น่าจะเป็นโอกาสในการเข้าไปขยายธุรกิจได้มากที่สุด คือ ลาว และกัมพูชา

ทั้งนี้ จากแผนยุทธศาสตร์การเข้าสู่ตลาดสาขาบริการ ด้านการเงินในประเทศลาวและกัมพูชา ภายใต้แผนการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีพ.ศ.2558 ของสศค.ระบุว่า ในส่วนของภาคธุรกิจประกันภัยของกัมพูชานั้น มีเพียงการให้บริการประกันวินาศภัย 6 บริษัท ซึ่ง 3 บริษัท เป็นบริษัทต่างชาติ จากมาเลเซีย ฮ่องกง และสิงคโปร์ และมีบริษัทประกันภัยต่อเพียงแห่งเดียว

ด้านธุรกิจประกันภัยของลาว มีบริษัทประกันภัยที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจ 6 บริษัท โดยการเข้ามาทำธุรกิจของต่างชาติ ให้เป็นไปตามกฎหมายส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ (FDI Program Law) โดยไม่มีข้อจำกัด หรือเงื่อนไขเฉพาะกับต่างชาติ นักลงทุนลาว และต่างชาติสามารถจัดตั้งบริษัทประกันภัยได้ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปของการร่วมทุน

ทั้งนี้ โอกาสของไทยในการขยายธุรกิจใน 2 ประเทศนี้มีมาก แม้ว่าขนาดของบริษัทประกันภัยไทยจะไม่ใหญ่มาก แต่ได้เปรียบในด้านพรมแดนที่ติดกับลาว และกัมพูชา ประกอบกับความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคในทั้ง 2 ประเทศ มีให้กับบริษัทประกันภัยไทย และระบบสาธารณสุขของไทย เห็นได้จากการข้ามพรมแดนของคนลาว มาซื้อประกันภัยกับบริษัทประกันไทยจำนวนหนึ่ง จึงทำให้ไทยได้เปรียบประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ในการขยายตลาดใน 2 ประเทศนี้

อย่างไรก็ดีธุรกิจประกันภัยไทยไม่น่าจะได้รับผลกระทบ จากการเปิดเสรีภาคการเงินภูมิภาคอาเซียนนี้ เนื่องจากบริษัทประกันภัยส่วนใหญ่ ในอาเซียนรวมทั้งไทย เป็นบริษัทประกันภัยที่มีผู้ถือหุ้นเป็นต่างชาตินอกอาเซียนทั้งสิ้น ประกอบกับนโยบายการเปิดเสรีประกันภัยของไทย ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป และเตรียมความพร้อมด้านการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบประกันภัยไทยไว้แล้ว

นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีบริษัทประกันชีวิต 24 บริษัท มีช่องทางการขายที่หลากหลาย เพื่อให้เข้าถึงประชาชนจำนวนมากได้ ถือว่าเพียงพอต่อการให้บริการคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นการเปิดเสรีประกันภัยจึงไม่มีผลมากนัก สำคัญคือการพัฒนาให้ดี ทั้งบริษัทและความรู้ความเข้าใจของประชาชนเรื่องประกันชีวิต อีกทั้งขณะนี้ยังไม่เห็นกรอบของการเปิดเสรีประกันภัย ว่าจะมีอะไรบ้างคงไม่ใช่แค่การเอาแบบประกันมาขาย แต่ในแง่ของการอนุมัติแบบประกันภัย การดูแลลูกค้า การเคลม ก็ต้องมีกฎเกณฑ์สำหรับบริษัทต่างชาติ ที่จะเข้ามาขายด้วยต้องมีการหารือในรายละเอียดอีกมาก

“การซื้อประกันกับบริษัทประกันชีวิตไทย น่าจะเป็นผลดีต่อคนไทยมากกว่า เพราะหากเกิดอะไรขึ้นก็สามารถติดต่อหรือเคลมกับบริษัทได้ หรือหากมีข้อร้องเรียน ก็ไปร้องกับสำนักงานคณะกรรมการ กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ นอกจากนี้หากซื้อประกันชีวิตกับบริษัทไทย ยังสามารถได้สิทธิประโยชน์ในเรื่องของการลดหย่อนภาษีได้ด้วย หากว่าซื้อกับบริษัทต่างชาติอาจจะไม่ได้รับสิทธินี้ก็เป็นได้”

สำหรับประเด็นเรื่องของอัตราเบี้ยประกันชีวิตของไทยที่ผู้แทนการค้า (ทีทีอาร์) ระบุว่าแพงกว่าอเมริกา 10 เท่านั้น หลักเกณฑ์การคำนวณเบี้ยประกัน นักคณิตศาสตร์ประกันภัยใช้หลักเกณฑ์เดียวกันทุกประเทศ โดยมีองค์ประกอบคือ 1.อัตรามรณะไทย 2.อัตราดอกเบี้ยคำนวณเบี้ยประกัน และ 3.ค่าใช้ จ่าย ซึ่งเกี่ยวโยงกับภาวะเศรษฐกิจ สังคม ของประเทศนั้นๆ ด้วย

ทั้งนี้ อัตรามรณะไทยมีการจัดเก็บสถิติทุกรอบ 10 ปี จากจำนวนผู้ทำประกันชีวิตทั้งหมด ซึ่งจากการที่ตารางใหม่ปี 2551 ส่งผลให้อัตราเบี้ยถูกลง 20% สะท้อนว่าความเสี่ยงของคนไทยดีขึ้น วิทยาการด้านการแพทย์ดีขึ้น คนไทยอายุยืนยาวขึ้น จากการที่เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) รวมไปถึงจำนวนผู้ซื้อประกันภัยที่เพิ่มขึ้น ก็สะท้อนให้เห็นแนวโน้มอัตราเบี้ยในอนาคตยิ่งถูกลง

ที่มา : สยามธุรกิจ