โดย สยามธุรกิจ วันที่ 6 สิงหาคม 2554 เวลา 00:00 น.

มีคำถามจากประชาชนทั่วไปว่า ทำไมกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ จึงให้ความคุ้มครองเมื่อรถยนต์คันที่ทำประกันภัยไว้ไปชนบุคคลอื่นได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย บริษัทที่รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือที่เรียกว่าค่าเสียหายให้กับบุคคลภายนอก หรือบุคคลอื่นที่ได้รับความเสียหาย

แต่ทำไมพอทำประกันอัคคีภัยบ้านที่อยู่อาศัย แล้วบังเอิญทำบ้านไฟไหม้โดยประมาทจนลุกลามไปไหม้บ้านใกล้เรือนเคียงด้วย แต่บริษัทที่รับประกันภัยอัคคีภัยบ้านหลังดังกล่าวไว้ ไม่ยักกะไปชดใช้บ้านใกล้เรือนเคียงที่เสียหายให้ด้วยชดใช้ ให้เฉพาะบ้านที่ทำประกันภัยไว้เท่านั้น

ปัญหานี้สำหรับผู้ที่อยู่ในธุรกิจประกันภัยคงจะทราบว่า การชดใช้ดังกล่าวถูกต้องตามหลักการประกันภัยแล้ว แต่อาจไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดบริษัทที่รับประกันภัยจึงชดใช้เช่นนั้น ซึ่งเหตุผลของการชดใช้ของบริษัทประกันภัยในลักษณะดังกล่าว เป็นเรื่องของหลักกฎหมายของสัญญาประกันภัย ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กำหนดลักษณะของสัญญาประกันภัยไว้เป็น 2 รูปแบบ กล่าวคือ

สัญญาประกันภัยตามมาตรา 861 นี้ ตัวอย่างที่สามารถหยิบยกมาก็คือ กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย และกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เป็นต้น ซึ่งเป็นสัญญาประกันภัยที่มุ่งให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินที่นำมาประกันภัยเท่านั้น เช่น สัญญาประกันชีวิต ก็คือ การคุ้มครองต่อการเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัย สัญญาประกันอัคคีภัยก็มุ่งให้ความคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินที่นำมาประกันภัย เป็นสัญญาประกันภัยตามมาตรานี้ ถึงแม้ว่าสัญญาประกันชีวิตจะมีกำหนดไว้ต่างหากออกไป แต่หลักเกณฑ์สำคัญก็ยังคงอาศัยหลักของสัญญาประกันภัยตามมาตรา 861 เป็นหลักสำคัญด้วย

สำหรับสัญญาประกันภัยอีกประเภทหนึ่ง ที่ให้ความคุ้มครองถึงความเสียหายของบุคคลภายนอก ที่ผู้เอาประกันภัยไปกระทำให้เกิดความเสียหายขึ้น และผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้ในมาตรา 887 ว่า

ซึ่งมีสาระสำคัญว่าบริษัทที่รับประกันภัย จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับบุคคลอื่นใดก็ตาม ที่ได้รับความเสียหายอันเกิดจากการกระทำของผู้เอาประกันภัย หรือเรียกว่าผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบ ตัวอย่างของสัญญาประกันภัยประเภทนี้คือ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ดังนั้น เมื่อรถยนต์คันที่ได้ทำประกันภัยเอาไว้ไปชนรถยนต์คันอื่น ชนบ้านคนอื่น หรือชนคนอื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บริษัทที่รับประกันภัยรถยนต์คันที่เป็นต้นเหตุ จะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามหลักของสัญญาประกันภัยค้ำจุน

อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันนี้มีบริษัทประกันภัยบางแห่ง ได้นำเอาสัญญาประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก มารวมไว้กับกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยด้วย ทำให้เกิดความคุ้มครองพิเศษสำหรับกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย โดยจะให้ความคุ้มครองไปถึงบ้าน หรือทรัพย์สินอื่นใดของเพื่อนบ้าน ที่อาจถูกไฟลุกลามโดยต้นเหตุเกิดจากบ้านที่ทำประกันภัยไว้ ความสำคัญของสัญญาลักษณะนี้อีกประการหนึ่งก็คือ กรมธรรม์ลักษณะนี้ยังให้ความคุ้มครองความเสียหาย สำหรับการบาดเจ็บ การเสียชีวิต หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ที่เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุภายในบ้านของผู้เอาประกันภัย ที่ได้ทำประกันภัยเอาไว้มิใช่เฉพาะไฟไหม้เท่านั้น รายละเอียดต้องศึกษาจากเงื่อนไขและความคุ้มครองในกรมธรรม์ให้ดี

ทำไมกรมธรรม์แต่ละประเภทจึงให้ความคุ้มครองไม่เหมือนกัน ซึ่งอันที่จริงแล้วบทสรุปง่ายๆ ก็คือความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยนั้น ขึ้นกับเบี้ยประกันภัยที่บริษัทประกันภัยเรียกเก็บ ถ้ามีเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยหลายประเภท ความคุ้มครองก็จะมีมากขึ้นด้วยครับ

ที่มา : สยามธุรกิจ